รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่เชียงใหม่ ประชุมมอบนโยบาย ปฎิบัติการฝนหลวงยับยั้งลูกเห็บ และปฎิบัติการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมผุดไอเดียจัดตั้งอาสาสมัครฝนหลวง ทั้งภาคพื้นดินและภาคอากาศ ช่วยเสริมศักยภาพการทำฝนหลวง

วันนี้(28 มี.ค.61) ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานประชุมและมอบนโยบายการดำเนินงานโครงการความร่วมมือกับกองทัพอากาศในการปฎิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงของการเกิดลูกเห็บในพื้นที่ภาคเหนือประจำปี 2561 โครงการปฎิบัติการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ และการปฎิบัติการฝนหลวงพื้นที่ภาคเหนือประจำปี 2561 โดยมี อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมและรับฟังนโยบายในการ ดำเนินโครงการในครั้งนี้
b385598516ddcebe9cd64e5bf7095fc8.jpgนายวิวัฒน์ เปิดเผยว่า จากสภาวะภัยแล้งบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตลอดจนภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันความรุนแรงจากสภาวะภัยแล้งและการเกิดพายุลูกเห็บ ได้แผ่ขยายเป็นวงกว้าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเตรียมความพร้อมในการปฎิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาภัยพิบัติและภัยแล้งตามยุทธศาสตร์การบรรเทาภัยพิบัติของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเพื่อบรรเทาความรุนแรงจากภัยดังกล่าว ด้วยเทคนิคการปฎิบัติการฝนหลวงเมฆเย็น ซึ่งเป็นเทคนิควิธีการหนึ่งในการดัดแปรสภาพอากาศ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานไว้ในตำราฝนหลวงพระราชทาน
f1300d9647aae42adb40ae44735c1f42.jpgขณะเดียวกันรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการพูดคุยหารือกันในครั้งนี้ยังได้ข้อสรุปเป็นแนวทางร่วมกันด้วยในการที่จะจัดตั้งอาสาสมัครฝนหลวง ทั้งอาสาสมัครภาคพื้นดินและอาสาสมัครภาคอากาศ โดยในส่วนของอาสาสมัครภาคพื้นดินนั้น จะทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียว ซึ่งเมื่อพื้นที่ป่าหรือต้นไม้เพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้การเก็บซับน้ำไว้ในพื้นที่ดินพร้อมช่วยความชุ่มชื้นในอากาศไปด้วย ส่วนอาสาสมัครภาคอากาศ จะเป็นในลักษณะของผู้มีเครื่องบินส่วนตัวหรืออากาศยาน แล้วเข้ามาช่วยโปรยเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อปลูกป่า หรือแม้กระทั่งร่วมบินทำฝนหลวง ซึ่งจากนี้จะเร่งจัดทำรายละเอียดในเรื่องนี้และผลักดันให้เป็นรูปธรรมต่อไป
5f2f046513f3de16902631a3a4a5c779.jpgด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล บดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า สำหรับเทคนิคการปฎิบัติการฝนหลวงเมฆเย็น จะใช้เครื่องบินแบบปรับความดัน (Super King Air) ซึ่งสารฝนหลวงสี่ใช้กับเลขเย็น หรือเมฆที่อุณหภูมิภายในต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส หรือ ซิลเวอร์ไอโอไดด์ เป็นสารที่ผลึก มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับแกนผลึกน้ำแข็ง ในธรรมชาติ ภายในเมฆเย็นจะมีเม็ดน้ำเย็นยิ่งยวดปริมาณมาก การเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำแข็งในเมฆจะเป็นการเร่งกระบวนการทางธรรมชาติที่เดิมมีปริมาณการผลิตน้ำแข็งอยู่น้อย เพื่อทำให้เกิดผลึกน้ำแข็งปริมาณมากขึ้นและเกิดการยกตัวของเมฆจากการคายความร้อนแฝง ได้ปริมาณน้ำฝนมากกว่าธรรมชาติ ซึ่งเมฆที่เกิดในฤดูร้อน มักทำให้เกิดพายุดูร้อน และอาจมีลูกเห็บเกิดขึ้นได้ เนื่องจากเมฆมีการยกตัวอย่างรวดเร็ว และมีแกนน้ำแข็งภายในเมฆน้อย น้ำแข็งที่อยู่ในเมฆหรือยอดเมฆร่วงหล่นลงมาถึงพื้นโดยที่ละลายไม่ทัน
0b4cda8635dd9e532b69bbb71157d87f.jpgสำหรับเทคนิคการปฎิบัติการฝนหลวงเมฆเย็น เพื่อเพิ่มแกนผลึกน้ำแข็งให้มากกว่าการปฎิบัติการเมฆเย็นตามปกติ จะช่วยลดโอกาสการเกิดลูกเห็บได้ เนื่องจากแกนผลึกน้ำแข็งปริมาณมาก พี่เพิ่มเข้าไปในเมฆเย็นจะไปแย่งเม็ดน้ำเย็นยิ่งยวด ทำให้เกิดผลึกน้ำแข็งขนาดเล็กปริมาณมากเมื่อเกิดฝนตกผลึกน้ำแข็งขนาดเล็กเหล่านี้จะละลายก่อนที่จะตกถึงพื้น สามารถลดความเสียหายได้
654975a7b6123cb1c382f9c66e631c65.jpgทั้งนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีแผนปฏิบัติการตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมาโดยใช้เครื่องบิน Super King Air 350 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรซึ่งประจำการอยู่ที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลกและในช่วงปลายเดือนมีนาคม-เมษายน กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้จัดทำโครงการความร่วมมือกับกองทัพอากาศเพื่อใช้เครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 หรืออัลฟ่าเจ็ท ซึ่งเป็นเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูงและมีความเร็วในการเข้าถึงเป้าหมายประจำการหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกันปฎิบัติการฝนหลวง ยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บด้วยการใช้วิธีโจมตีด้วยพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ เพื่อนำสารฝนหลวงซิลเวอร์ไอโอไดด์ ไปเร่งกระบวนการทางธรรมชาติทำให้ผลึกน้ำแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นเม็ดน้ำ
05f077d031577d5d727f83b2273f0c30.jpgโดยที่ผลึกน้ำแข็งจะละลายตกลงมาเป็นน้ำฝนซึ่งจะช่วยบรรเทาความรุนแรงและยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บเพื่อลดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรของประชาชนอันจะเกิดจากพายุลูกเห็บลงได้และสอดคล้องกับการดำเนินงานตามนโยบายโครงการไทยนิยมยังยืนตามกรอบหลักการที่ 3 ชุมชนอยู่ดีมีสุข ในการพัฒนาความเป็นอยู่ อาชีพและรายได้แก่ประชาชน อย่างไรก็ตามศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเหนือ ยังคงติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องและพร้อมที่จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง ช่วยเหลือพื้นที่ร้องขอทันทีที่สภาพอากาศเหมาะสม รวมทั้งหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น พื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิต พื้นที่ประสบภัยและอื่นๆ
e2e4c6d7e39329647c6dc59c3f78f01d.jpgนอกจากนี้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีหนึ่งในภารกิจหลัก ในการบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า บริเวณพื้นที่ภาคเหนือด้วยการดัดแปรสภาพอากาศ ตัวการหนึ่งของสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการเกิดปัญหาหมอกควัน คือ ชั้นบรรยากาศอุณหภูมิผกผัน (Inversion Layer) อุณหภูมิเพิ่มขึ้นตามระดับความสูง ซึ่งปกติในบรรยากาศชั้น โทรโพสเฟียร์ (Troposphere) อุณหภูมิจะลดลงตามระดับความสูงที่เพิ่มขึ้นด้วยอัตราประมาณ 6.4 องศาเซลเซียสต่อความสูง 1,000 เมตร ระดับที่เกิดชั้นอุณหภูมิบรรยากาศผกผันเปรียบเสมือนชั้นที่ขวางกั้นการลอยตัวของฝุ่นละอองหรือสารแขวนลอย (Aerosol) จากพื้นผิวโลกสู่บรรยากาศด้านบนเนื่องจากอุณหภูมิของฝุ่นละอองต่ำกว่าชั้นบรรยากาศอุณหภูมิผกผัน ฝุ่นละอองหรือสารแขวนลอย จึงถูกกักตัวอยู่ที่ระดับล่างใกล้พื้นผิวโลก ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็น สุขภาพประชาชน และสิ่งแวดล้อม
กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงพยายามคิดค้นเทคนิคในการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันขึ้น ในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้อต่อการปฎิบัติการฝนหลวง โดยอาศัยหลักการในขั้นตอนที่ 4 ตามตำราฝนหลวงพระราชทาน ซึ่งใช้สารฝนหลวงสูตร 4 หรือน้ำแข็งแห้ง เป็นสารฝนหลวงสูตรเย็นที่มีอุณหภูมิเย็นจัดลดลงถึง -80 องศาเซลเซียส สามารถทำให้อากาศเย็นจมตัว เพิ่มความกดอากาศและเพิ่มความชื้นในบรรยากาศ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวเมื่อทำการโปรยสารฝนหลวงสูตร 4 บริเวณเหนือชั้นบรรยากาศอุณหภูมิผกผัน
จากสมมติฐานข้างต้น จะทำให้บริเวณนั้นมีอุณหภูมิลดต่ำลง และจะส่งผลให้ฝุ่นละออง และสารแขวนลอยที่อออยู่ ใต้ชั้นบรรยากาศอุณหภูมิผกผันลอยขึ้นในบรรยากาศระดับบนได้ การปฎิบัติการฝนหลวงดีงกล่าวจะใช้เครื่องบินเมฆอุ่น (CASA) จำนวน 2 ลำ สำหรับโปรยน้ำแข็งแห้งและเครื่องบินวิจัย (Super King Air) จำนวน 1 ลำ สำหรับตรวจวัดฝุ่นละอองและองค์ประกอบอื่นๆ ปฏิบัติการร่วมกัน โดยมีพื้นที่เป้าหมายทั้ง 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา และแม่ฮ่องสอน โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2561 นี้ อย่างไรก็ตามกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันเพื่อให้ฝนชะล้างฝุ่นละอองในอากาศในกรณีที่สภาพอากาศเอื้อต่อการปฎิบัติการฝนหลวง