ตลาดดอกไม้วันวาเลนไทน์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ค่อนข้างเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าไม่กล้าสั่งดอกมาตุน ซึ่งเป็นไปตามคาด ที่ลูกค้าลดหดหาย แม้แต่กลุ่มเด็กวันรุ่ย โดยช่อดอกไม้ที่แพงสุดปีนี้ลดลงมาเหลือแค่ 7 พันบาท ถือว่าได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นประวัติกาล
บรรยากาศวันแห่งความรักหรือเทศกาลวันวาเลนไทน์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ปีนี้ไม่คึกคักเท่าที่เคยเป็นมา ซึ่งพบว่าที่ตลาดดอกไม้ ในย่านตลาดต้นลำไย แหล่งจำหน่ายดอกไม้ที่ใหญ่ของเชียงใหม่และภาคเหนือ ในเช้าวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา แตกต่างจากหลายปีที่ผ่านมา พ่อค้าแม่ค้าต่างบอกว่าแม้จะเจอสถานการณ์โควิด-19 มาสองปีแล้ว แต่ปีนี้เงียบเหงาที่สุดเป็นประวัติการณ์ เห็นได้จากการเตรียมดอกกุหลาบมาวางจำหน่ายทั้งแบบดอกเดี่ยว จัดช่อ หรือช่อตุ๊กตากับช๊อคโกแลต ไว้ตั้งแต่วานนี้ แต่มีคนออกมาเลือกซื้อกันอย่างบางตา
ซึ่งปีก่อนๆ จะมีทั้งกลุ่มนักเรียนนักศึกษา วัยรุ่น วัยทำงานมาเลือกซื้อไปมอบให้กับคนรักตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งพบว่ากลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยรุ่น หายไปมากที่สุด แม้จะโรงเรียนจะเปิดเรียนตามปกติเกือบทุกโรงเรียนแล้วก็ตาม ที่ยังพอมีจะเป็นกลุ่มวัยทำงานแต่ก็ลดขนาดและปริมาณลงตามเศรษฐกิจ
ทั้งนี้เจ้าของร้านยุพิณดอกไม้สด เปิดเผยว่า แหล่งผลิตดอกกุหลาบในปีนี้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหนัก เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาความต้องการใช้ดอกไม้ในงานพิธี งานแต่งงาน หรืองานอีเว้นท์ต่างๆ ลดลง ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกไม้ดอก ปรับตัวเพื่อความอยู่รอด หันไปปลูกพืชผักอย่างอื่นเพื่อสร้างรายได้แทน ทำให้ในปีนี้มีปริมาณดอกกุหลาบลดลง ในช่วงวันวาเลนไทน์จึงมีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณ 2-3 เท่าตัว ทั้งดอกเล็กและดอกใหญ่ เช่น จากต้นทุนดอกละ 5 บาท ขึ้นมา 15 บาท ทำให้ราคาจำหน่ายปลีกในปีนี้อยู่ที่ดอกละ 20 บาท ไปจนถึงหลักร้อยบาท
ส่วนแบบช่อดอกกุหลาบสั่งทำพิเศษช่อใหญ่ที่เคยมีลูกค้าสั่งทำในราคาช่อละ 1 – 2 หมื่นบาทนั้น ปีนี้มีสั่งช่อดอกใหญ่สุดจำนวน 99 ดอก ในราคา 7 พันบาทเท่านั้น ซึ่งคาดว่าวันนี้จะมีลูกค้าทยอยมา แต่ไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา โดยพ่อค้าแม่ค้าก็ไม่ได้สั่งดอกไม้มาเตรียมไว้มากนัก เพราะจากยอดขายที่ลดลงสวนราคาต้นทุนดอกไม้ที่สูงขึ้น จึงไม่อยากให้ตนเองต้องขาดทุน