
มาแล้วแอดเวเจอร์ทีม “คิงลงมา” ขนส่งเชียงใหม่ และตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เรียกกลุ่มชายหญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ล้อมรถ GrabCar ให้ข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาท ระหว่าง GrabCar และสี่ล้อแดง แม็กซี่ และตุ๊กๆ เวลานี้ ที่สถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 3 (อาเขต) ขณะที่คนขับรถตุ๊กๆ ยอมรับเป็นคนในคลิปเหตุที่เกิดขึ้นเพราะคับแค้นใจร้องเรียนแก้ปัญหา GrabCar แต่ไม่ได้รับการแก้ไขจึงต้องทำกันเอง แต่ภาพที่ออกไปดูรุนแรงมองเป็นเรื่องดีที่เหตุการณ์แบบนี้จะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลแม้จะเสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ล่าสุดพบข้อมูลตุ๊กๆคนนี้ มีพฤติกรรมเช่นนี้จนถูกจับมาเมื่อปี 2559 และทหารยังได้รับการร้องเรียนพฤติกรรมเช่นนี้จนต้องมาตักเตือนหลายครั้งแต่ยังไม่ปรับปรุงจากกรณีคลิปภาพจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะใช้บริการ GrabCar ที่สถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 3 (อาเขต) แต่ถูกกลุ่มคนชายหญิง ผู้ให้บริการรถสี่ล้อแดงรับจ้าง และรถตุ๊กๆ มาปิดล้อมข่มขู่ให้ผู้โดยสารลง และพยายามจะทำร้ายร่างกายของคนขับ GrabCar เผยแพร่ออกไปเมื่อช่วงค่ำของวานนี้จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในขณะพนี้
ล่าสุดทางขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ และตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหมาได้เรียก กลุ่มคนที่อยู่ในภาพขณะทำการปิดล้อมถ่ายภาพ และข่มขู่ GrabCar และนักท่องเที่ยว มาที่สถานีขนส่งเชียงใหม่าแห่งที่ 3 (อาเขต)เพื่อดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดีกับทั้ง 2 ฝ่าย ทั้ง GrabCar ที่ผิดกฏหมาย และกลุ่มคนที่ล้อมรถ GrabCarโดยเฉพาะตัวของนายรุ่งรุจ จินาเรือน อายุ 37 ปี คนขับรถตุ๊กๆ ที่สวมเสื้อสีน้ำตาลพิมพ์คำว่า Wellcome to Chiang Mai เข้ามาให้ปากคำ และเตรียมดำเนินคดี ซึ่งนายรุ่งรุจ จินาเรือน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเองเป็นคนในคลิปภาพที่เผยแพร่จริง โดยอ้างว่า เกิดจากความคับแค้นใจที่ถูกแย่งอาชีพ ถูกแย่งผู้โดยสาร ทั้งๆ ที่ถูกกฏหมาย แม้จะร้องเรียนไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ
แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาลงมา ทางกลุ่มผู้ได้รับความเสียหายจึงต้องดูแลกันเอง โดยวันเกิดเหตุอ้างว่าพยายามเจรจา และพูดคุยด้วยความสุภาพให้คนขับ GrabCar ลงมาจากรถแต่ไม่ยอมลง จึงพูดไปด้วยภาษาเมือง อย่างที่เห็นอยู่ในคลิป ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวถามว่าจากกรแสวิพากษ์วิจารย์เรื่องที่เกิดขึ้นในเชิงลบนั้นตนเองเป็นว่าเป็นสิ่งดีที่จะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ลงมาแก้ปัญหาโดยเร็ว ขณะที่เรื่องภาพลักษณ์ที่กระทบกับนักท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวก็เสียใจที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอยู่ แต่หากไล่ดีๆ แล้วGrabCar ไม่ออกไปไม่ยอมฟัง ทั้งๆ ที่ยื่นหนังสือร้องเรียนทุกทางแล้วแต่เหมือนไม่ได้รับความช่วยเหลือ เรื่องเงียบไป แต่ได้รับผลกระทบถึงรายไเด้แ ละครอบครัวตนเองจึงไม่มีทางออกพร้อมกับขอโทษที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น และทำให้ภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่เสียไป แต่ยืนยันว่าตนเองไม่มีทางออกจริงๆ
อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำ และเตรียมดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย แต่ปรากฏว่า มีข้อมูลนายรุ่งรุจ จินาเรือน อายุ 37 ปี คนขับรถตุ๊กๆ คนที่ก่อเหตุ เคยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมาในลักษณะเดียวกันคือพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง ถูกจับในข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า และไม่มีในอนุญาตขับรถสาธารณะ 3 ล้อเครื่อง ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ และจนถึงตอนนี้แม้จะกลับมาขับรถตุ๊กๆอีกก็ยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะดังกล่าวเช่นเคย อีกทั้งมีรายงานจากข้อมูลทางฝั่งของทหาร ว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเรื่องพฤติกรรมดังกล่าวของนายรุ่งรุจ จินาเรือน จนทหารต้องส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและคอยตักเตือนหลายครั้งเช่นกันจนมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีกครั้ง