ผ่านมากว่า 1 ดือนปัญหาราคาข้าวเหนียว และไข่ไก่ที่ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องยังไม่ได้รับการเหลียวแลกระทบคนเมืองเชียงใหม่ ที่ต้องกินข้าวเหนียวเป็นอาหารหลักคู่กับอาหารพื้นเมือง ยังขยับราคาขึ้นอีกกิโลกรัละ 5 บาท ตอนนี้ข้าวเหนียวนึ่งทั่วไปขายกิโลกรัมละ 45 บาท แพงสุดอยู่ที่ 60 บาท ส่วนไข่ไก่แพงไม่หยุดเช่นเดียวกันทะลุฟองละ 5บาท20 สตางค์แล้ว
เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วที่ราคาข้าวสารข้าวเหนียวทั้งพันธุ์ข้าวเหนียวสันป่าตอง และข้าวเหนียวเขี้ยวงู ที่มีการปรับราคาขึ้นต่อเนื่องล่าสุดขยับราคาขึ้นอีกกระสอบละ 200 บาท ข้าวเหนียวสันป่าตองจากราคากระสอบละ 800 ขยับขึ้นเป็น 1900 บาท ส่วนข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากกระสอบละ 1200 ขยับขึ้นมาเป็น 2200 บาท ส่งผลให้ราคาข้าวเหนียวนึ่งที่ขายตามตลาดทั่วไปจากที่เคยขายกิโลกรัมละ 25 บาทพุ่งสูงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท แต่ล่าสุดเมื่่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องแบกภาระราคาข้าวสารที่แพงขึ้น และค่าหุงต้ม ต้องปรับราคาขึ้นอีกกิโลกรัมละ 5 บาท มาเป็นกิโลกรัมละ 45 บาท และแพงที่สุดยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-65 บาท
โดยแม่ค้าร้านขายข้าวเหนียวที่ตลาดชุมชนท่าเดื่อ ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บอกว่าราคาตอนนี้ต้องปรับขึ้นอีกจากราคาข้าวสารข้าวเหนียวที่ปรับขึ้นอีกกระสอบละ 200 บาท ขั้นต่ำต้องขายให้กับลูกค้าตั้งแต่ 10 บาทขึ้นไป ขณะที่ชาวบ้านรากหญ้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลยังไม่ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือชาวบ้านที่ต้องเจอกับข้าวแพง ไข่แพง แถมยังถูกอ้างว่าข้าวแพงชาวนาน่าจะดีใจทั้งๆ ที่ทราบกันทั่วไปว่าข้าวที่แพงนี้ชาวนาไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เนื่องจากข้าวได้ขายไปที่โรงสีก่อนหน้าที่มีการขยับราคา คนที่ได้กำไรคือพ่อค้าคนกลาง และโรงสีที่มีสต๊อกข้าวต่างหาก แต่น่าจะมีมาตรการมาควบคุมราคาหรือช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ เสียที
ขณะเดียวกันจากการสำรวจราคาไข่ไก่ในตลาดก็พบว่ามีการปรับราคาหน้าฟาร์มมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ขายปลีกหน้าร้านอยู่ที่ฟองละ 4บาท50สตางค์ ถึง 5บาท 20 สตางค์ สำหรับไข่ไก่เบอร์ศูนย์ ทำให้ประชาชนหันไปเลือกบริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่น หรือพืชผักอื่นๆแทน ส่วนแม่ค้าร้านของชำบางร้านเองก็ไม่รับไข่ไก่มาวางขายเช่นทุกครั้งเนื่องจากราคาที่แพงขึ้นทำให้ขายยาก
