
วันแรกเริ่มโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ 800 บาท กับเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน อีก 200 บาทต่อคน ประชาชนออกมาจับจ่ายกันคึกคักแต่เช้า หลายคนบ่นแม้จะเพิ่มวงเงินให้เป็น 400-500 บาทต่อบัตรต่อคน แต่สินค้าหลายอย่างก็ปรับราคาสูงขึ้นตาม วันนี้มาม่าร้านปลีกปรับขึ้นเป็น 7 บาทแล้ว ปลากระป๋องเพิ่ง 3 บาท ยอมรับช่วยได้เพียงช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพเท่านั้นยังต้องดิ้นรนหาเงินกันต่อ
บรรยากาศในวันแรกของ โครงการ “คนละครึ่งเฟส 5” ประชาชนรายเก่าที่เคยเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 26.27 ล้านคน ส่วนรายใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 2.3 แสนคน ซึ่งเปิดใช้แล้วในวันนี้เป็นวันแรก ขณะเดียวกัน โครงการ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” ก็ได้มีการเพิ่มวงเงินในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 จำนวน 200 บาท/คน ในระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนถึง 31 ตุลาคม 2565 รวมทั้งสิ้น 400 บาทต่อคน เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในภาวะวิกฤตในภาวะเศรษฐกิจที่ราคาสินค้าและค่าครองชีพปรับสูงขึ้นนี้ ทำให้คนที่เคยได้เดือนละ 200 บาทก็จะได้ใช้ดือนละ 400 บาทสองเดือนติดต่อกัน ส่วนคนที่เคยได้ 300 บาทก็จะได้ 500 บาท 2 เดือนเช่นกัน
ทำให้เช้านี้วันที่ 1 กันยายน 2565 วันเริ่มโครงการเฟสใหม่ หลายคนที่รอคอยจะใช้สิทธิได้ออกมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก อย่างที่ร้านจงกำไร ชุมชนป่าตัน-บ้านท่อ ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านค้าประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการ ต้องรีบเปิดให้บริการตั้งแต่เช้ามืดเพื่อรองรับลูกค้าทั้งจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ได้สิทธิ์คนละครึ่งเฟสที่ 5 มาเลือกซื้อสินค้า กันอย่างคึกคัก แม้ว่าสินค้าหลายอย่างจะมีการขยับราคาขึ้นมาก่อนหน้านี้ ทั้งน้ำมันพืช ไข่ไก่ อาหารกระป๋อง นมข้นหวาน หรือของใช้เพื่อการอุปโภคอย่างผงซักฟอก น้ำยาซักผ้าน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ขยับราคาก่อนหน้านี้แล้ว และล่าสุดในวันนี้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 ยี่ห้อที่มีการประกาศปรับราคาก่อนหน้านี้แล้วนั้น ทางร้านเพิ่งจะมาปรับขึ้นราคาในวันนี้หลังจากที่เคยประกาศแจ้งลูกค้าล่วงหน้ามา ทำให้เช้านี้จากซองละ 6 บาทปรับขึ้นมาเป็น 7 บาท ส่วนปลากระป๋องก็พบว่าขยับราคาขึ้นมากระป๋องละ 2-3 บาทเช่นกัน
โดยเช้านี้พบว่าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนเป็นส่วนใหญ่ และต่างก็ซื้อข้าวของเครื่องใช้อาหารแห้งอาหารกระป๋อง เครื่องปรุง และส่วนใหญ่ก็ซื้อกันเต็มวงเงินเพื่อที่จะไม่ต้องออกมาซื้อหลายรอบเปลืองค่าน้ำมันรถ แต่ก็พอสำหรับเพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายเท่านั้นไม่พอที่จะกินจะใช้ไปจนถึงสิ้นเดือน
นางสิริพร ชัยศร อายุ 58 ปี ชาวบ้านท่าเดื่อ ต.สันผีเสื้อ เผยว่า ดีใจที่ได้วงเงินเพิ่มขึ้นแม้จะ 200 บาทต่อคน ตนเองและลูกสาวอยู่บ้านเดียวกันก็ได้วงเงินเพิ่มเป็น 500 และ 400 บาทสองเดือน วันนี้มาใช้ไปทั้งสองคน 600 กว่าบาทที่เหลือก็สำรองไว้เผื่อได้มาซื้อของจำเป็นอีก เนื่องจากตนเองก็ไม่มีรายได้ วันนี้ก็เลือกมาซื้อของใช้จำเป็น น้ำมัน เครื่องปรุง สบู่ยาสีฟัน แต่ก็บ่นว่าตอนนี้ของทุกอย่างก็แพงขึ้น
ขณะที่นางพิรานันท์ เกตุหนองโพธิ์ ชาวบ้านข่วงสิงห์ ก็ได้มาใช้สิทธิ์วันนี้ ยอมรับว่าวงเงินที่ได้มาแม้จะเพิ่มมากขึ้นแต่พบว่าสินค้าหลายประเภทรวมทั้งค่าครองชีพอื่นอย่างน้ำมันรถก็ขึ้น ก็พอจะช่วยบรรเทาเท่านั้น แต่สิ่งที่อยากให้รัฐบาลเร่งทำคือ อยากให้ตรวจสอบสิทธิ์ในการได้วงเงินแบบนี้อยากให้ตรวจสอบว่าเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ เท่าที่เคยเห็นด้วยตนเองยังพบว่าเจ้าของหอพักขนาดใหญ่ก็ยังได้บัตรคนจน จึงอยากให้ตรวจสอบสิทธิ์ให้ดีเพื่อที่จะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนจริงๆ ส่วนตัวเองกับสามีได้วงเงินรวมกัน 800 บาทวันนี้ก็จะใช้ให้หมดเพราะจะได้ไม่ต้องไปมาซื้อหลายเที่ยว เลือกไปก็ต้องกดเครื่องคิดเลขคำนวนราคาไปด้วยจะได้ไม่เกินวงเงินของส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารแห้ง อาหารกระป๋อง เครื่องปรุง น้ำมัน ขนม และของใช้จำเป็น