
ครอบครัวและญาตินักศึกษาสาว19อดีตเด็กฝึกงาน ที่ถูกดาบตำรวจหนุ่มคนสนิทอ้างทำปืนลั่นใส่ในรถกระบะจนเสียชีวิต รับศพออกจากโรงพยาบาลตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดแล้ว ย่าสุดเศร้ายังทำใจไม่ได้ เผยเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะเพราะพ่อแม่เลิกกัน ฝันสลายสอบเข้าเรียนตำรวจและเก็บเงินสร้างบ้านอยู่ด้วยกัน
จากกรณีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 ดาบตำรวจ คงศักดิ์ กองเงิน อายุ 35 ปี ผบ.หมู่งานปราบปรามยาเสพติด สภ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทะเลาะกับแฟนสาวนางสาวอาภัสรา มันทเล หรือ “น้องนุ๊ก” อายุ 19 ปี นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ ที่เป็นอดีตเด็กฝึกงานในรถยนต์กระบะ แล้วอ้างว่าทำปืนลั่นใส่บริเวณท้ายทอยจนอาการสาหัสและเสียชีวิตในที่สุดนั้น วานนี้(8 พ.ย.62) ครอบครัวและญาติได้รับศพของนางสาวอาภัสรา ออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และเคลื่อนย้ายนำไปตั้งประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้วที่วัดท่าเดื่อ ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศที่ยังโศกเศร้า ซึ่งกำหนดจะจัดพิธีสวดบำเพ็ญกุศลในวันนี้เป็นคืนแรก แต่ทางครอบครัวยังไม่ได้สรุปว่าจะจัดพิธีฌาปนกิจวันใด
ทั้งนี้นางบังอร มันทเล ผู้เป็นย่าของนางสาวอาภัสรา เปิดเผยว่า กระทั่งเวลานี้ยังรู้สึกเสียใจและทำใจไม่ได้กับการที่หลานสาวต้องมาเสียชีวิตจากไป เพราะเลี้ยงดูหลานสาวคนนี้มาตั้งแต่อายุได้เพียงประมาณ6-7เดือน หลังจากที่พ่อแม่ของหลานสาวเลิกรากัน และพ่อที่เป็นลูกชายของตัวเองนำมาให้ช่วยเลี้ยง โดยหลานสาวเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนและตั้งใจทำงานหาเลี้ยงดูตัวเองด้วยการรับจ้างทำงานในร้านอาหารช่วงเย็นหลังจากที่เลิกเรียนแล้ว อีกทั้งยังเป็นที่รักของเพื่อนบ้านและคนในชุมชนด้วย เพราะมักจะช่วยเหลืองานของชุมชนทุกครั้งที่มีโอกาส
สำหรับดาบตำรวจที่เป็นคนก่อเหตุนั้น นางบังอร บอกว่า พอทราบบ้างว่าหลานสาวคบหาอยู่และมีการมารับส่งกันอยู่เป็นประจำ แต่หลานสาวไม่เคยพาเข้าบ้านและตัวเองเพิ่งจะเคยได้พบหน้าเมื่อไม่นานนี้ตอนที่มารับหลานสาวแล้วยกมือไหว้สวัสดีทักทายกัน ขณะที่ในคืนวันที่เกิดเหตุนั้น หลานสาวออกจากบ้านไปทำงานที่ร้านอาหารตามปกติ โดยไม่มีวี่แววใดๆ ว่าจะเกิดเหตุขึ้น เพราะหลานไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาและหลานไม่มีท่าทีปกติ ซึ่งหลังจากที่ทราบเรื่องแล้วหัวใจแทบสลาย เพราะตั้งความหวังไว้กับหลานสาวคนนี้อย่างมาก โดยในวันที่ 17 พ.ย.62 หลานสาวเตรียมจะไปสอบเข้าเรียนตำรวจและเคยบอกว่าเมื่อทำงานมีเงินแล้วจะสร้างบ้านอยู่ด้วยกัน แต่เวลานี้เรื่องทั้งหมดไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุยังไม่ได้พบหรือคุยกับดาบตำรวจที่ก่อเหตุ แต่เรื่องทั้งหมดคงต้องให้เป็นไปตามกฎหมาย