นศ.สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย เดินหน้าล่าชื่อขับไล่ กกต.จัดการเลือกตั้งไม่โปร่งใส ชูป้ายให้ใช้โทรศัพท์ลงชื่อผ่านQR Code แทน หลัง มช.ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ แต่มีนักศึกษา และมประชาชนให้ความสนใจมาร่วมลงชื่อกันอย่างคึกคักc5b5252440ddbd0c6043610a5e869061.jpgรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าช่วงเที่ยงวันนี้(29 มี.ค.62) ที่อาคารองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ อมช. ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักศึกษาและประชาชนจำนวนมาก ต่างพากันเฝ้ารอเพื่อร่วมลงชื่อถอด กกต. เนื่องจากเห็นว่าจัดการเลือกตั้ง ส.ส. 24 มี.ค.62 ไม่โปร่งใส ตามที่กลุ่มนักศึกษาที่ใช้ชื่อว่า สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย นัดหมายจัดกิจกรรมตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อระหว่างเวลา 12.30-14.00 น.เพื่อนำไปรวมกับเครือข่ายที่มีการจัดขึ้นทั่วประเทศ
20d053df27673dbd5d755c1ae524c0e4.jpgอย่างไรก็ตามในที่สุดแล้วไม่สามารถตั้งโต๊ะได้ เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาต เพราะไม่มีการขออนุญาตใช้สถานที่ ซึ่งทางสมัชชาฯ ได้เปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมเป็นการจัดทำป้ายที่พิมพ์ QR Code ให้ผู้ที่ต้องการร่วมลงชื่อใช้โทรศัพท์มือถืออ่านและลงชื่อผ่านทาง www.change.org รวมทั้งมีการย้ายไปจัดกกิจกรรมตั้งโต๊ะลงชื่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แทนa0125b78650b5fc07662bb9fc090bf8f.jpgทั้งนี้นายอภิบาล สมหวัง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะสมาชิกสมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย และแกนนำในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ของ กกต. มีความไม่โปร่งใสและไม่ชอบมาพากลหลายประการ จึงตั้งใจที่จะตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อนักศึกษาและประชาชนนำไปสมทบให้ครบ1ล้านรายชื่อเพื่อถอดถอน กกต. อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่6d018cf7dea0b3c01bf17cffb19c335e.jpgโดยให้เหตุผลว่าไม่ได้ขออนุญาตใช้สถานที่ล่วงหน้า ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบเป็นการจัดทำป้ายแล้วให้ร่วมกันลงชื่อผ่าน QR Code แทน พร้อมทั้งมีการย้ายไปตั้งโต๊ะลงชื่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แทน ซึ่งมั่นใจว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนที่มีความตั้งใจร่วมลงชื่อแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดหวังจะรวบรวมรายชื่อเฉพาะในส่วนของนักศึกษาได้ไม่น้อยกว่า 500 รายชื่อ ขณะเดียวกันยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังที่ทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ เพราะเห็นว่าควรจะเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับการแสดงออก0485290b3790630aea6bf31184c310ae.jpgขณะที่นายจันทร์แก้ว นันธิ อายุ 63 ปี ชาวอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทราบข่าวว่ามีการจัดกิจกรรมให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อเพื่อถอดถอน กกต. จึงนำหลักฐานเดินทางจากบ้านมาด้วยความตั้งใจที่จะร่วมลงชื่อด้วย เพราะเห็นว่าการจัดการเลือกตั้งของ กกต.ในครั้งนี้ ไม่โปร่งใสและไร้ความเป็นธรรม รวมทั้งการนับคะแนนมีความผิดปกติหลายอย่าง เหมือนมีความพยายามที่ช่วยเหลือกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเป็นพิเศษ