
คืบหน้าคดีสะเทือนขวัญฆ่ายกครัว พ่อ-แม่-ลูก ที่อำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตำรจพุ่งเป้าไปที่น้องชายของพ่อ ที่่เดินทางมาหาในช่วง 2 วันก่อนเกิดเหตุ และหายไปพร้อมทรัพย์สิน และเงินสด ขอรวบรวมหหลักฐานก่อนที่่จะเสนอศาลให้ออกหมายจับ
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญกรณีที่ พบศพนายจั๋นต๊ะ ไม่มีนามสกุล สัญชาติเมียนมาร์ อายุ 40 ปี นาง อ่อน นางใส สัญชาติเมียนมาร์ อายุ 55 ปี และนางสาว คำ ไม่มีนามสกุล สัญชาติ เมียนมาร์ อายุ 28 ปี 3คนพ่อแม่ลูก ถูกฆ่าโหดในเพิงพักในสวยลำไย ไม่มีเลขที่ ในสวนลำไย ม.4 ต.แม่นะ อ เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าวานนี้(22ตค.62)
ทางด้าน พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.เชียงดาว เปิดเผยว่า หลังจากวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งวัตถุพยาน ในที่เกิดเหตุ พยานบุคคล เพื่อสืบสวนสาเหตุ และตัวฆาตรกรที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้ ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีทรัพย์สินของผู้ตายได้หายไปคือสร้อยคอทองคำ 2 เส้น แหวน 2 วง เงินสดอีกประมาณ 1 หมื่นบาท ของครอบครัวผู้เสียชีวิตที่เก็บออมไว้ในบ้านที่เกิดเหตุ และเก็บรักษาไว้ในตัว ได้หายไป โดยก่อนหน้านี้วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา มีพยานระบุว่า มีน้องชายของนายจั๋นต๊ะ ผู้ตายชื่่อนายมะ ได้เดินทางมาจากนอกกพื้นที่มาพักอาศัยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต คืนก่อนเกิดเหตุมีการกินดื่มกันในครอบครัว ก่อนที่ช่วงเช้าจะหายตัวไปกับทรัพย์สินดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านแจ้งว่าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเชื่อว่าจะเป็นคนพื้นที่สูงถือบัตรสีชมพูหรือบัตรคนพื้นที่สูงหรือคนที่ไม่มีสัญชาติไทย ภูมิลำเนาน่าจะอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และเข้าออกเพื่อมาทำงานทั่วไป
ทั้งนี้จากบาดแผลที่ทำให้เหนื่อทั้ง 3 คนเสียชีวิตจากบาดแผลที่ถูกแทง และฟันด้วยมีดปลายแหลมในบ้านเสียชีวิตประมาณเวลา 24 นาฬิกาของคืนวันที่ 21ตุลาคม โดยไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ คาดว่าฆาตรกรจะก่อเหตุในช่วงที่ครอบครัวผู้ตายนอนหลับพักผ่อน มีเพียงร่องรอยของการรื้อค้นทรัพย์สินเท่านั้น
ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจได้พุ่งเป้าไปที่นายมะ เป็นผู้ต้องสงสัย ตอนนี้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบสำนวนคดี เพื่อให้มีน้ำหนักพอเพื่อเสนอศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อออกหมายจับต่อไป แต่เบื้องต้นคาดว่าผู้ต้องสงสัยอาจจะอาศัยความชำนาญเส้นทางในพื้นที่แนวชายแดนอาจจะหลบหนีออกจากประเทศไทยไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว จากการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยล่าสุด