
คืบหน้ากรณีที่พ่อโพสต์คลิป สจ.คนดังของเชียงใหม่เรียกเงิน 7 แสนช่วยเหลือคดียาเสพติดลูกชาย ล่าสุดพ่อเปิดใจอยากให้ช่วยกันตรวจสอบ ทั้งเรื่องคดีลูกชายหากผิดจริงให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนเรื่องเรียกรับเงินช่วยเหลือคดีก็อยากให้ตรวจสอบว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือทำเป็นขบวนการหรือไม่ ตอนนี้ห่วงเรื่องของความปลอดภัยลูกชายไม่รู้ว่าตอนนี้ถูกคุมตัวอยู่ที่ไหน รวมทั้งความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวหลังจากโพสต์เรื่องนี้ออกไป ส่วน สจ.คนดัง รับสายผู้สื่อข่าวแต่ขอปฏิเสธให้สัมภาษณ์อ้างเพียงว่าครอบครัวมาขอให้ช่วย แต่เสียใจที่ทำกับตนแบบนี้
ความคืบหน้ากรณีที่ นายพิจิตร ทินนัง ซึ่งเป็นชาวบ้านในตำบลสันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ได้โพสต์คลิปภาพและเสียง ที่ถ่ายไว้ขณะที่กำลังสนธนา และภาพเอกสารการจับกุมตัวลูกชาย ในคดียาเสพติดที่ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับข้อความว่า
” ผมนายพิจิตร ทินนัง เป็นบิดาของนาย พิศณุพงค์ ทินนัง ถูกตำรวจจับตัวไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 65 ที่ผ่านมา ตอนนี้อยู่ที่ โรงพักแม่ปิง ลูกชายได้บอกว่าตำรวจให้เบอรโทรศัพท์ของบุคคลหนึ่ง ให้โทรไปหาคนนี้ ซึ่งอ้างว่าจะช่วยให้พ้นคดีได้ ผมจึงให้ลูกสะใภ้ชื่อ แนท ได้โทรไปหาบุคคลดังกล่าว และได้มีการเรียกเงินค่าวิ่งเต้นคดี เพื่อให้ลูกของผมพ้นโทษ แต่ผมไม่มีเงินที่จะจ่ายให้ตามที่เขาเรียกร้อง จึงต้องร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อต่างๆ เนื่องจากห่วงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะไม่มีเงินไปจ่ายให้เขาวิ่งเต้นคดี และเกรงกลัวอิทธิพลต่างๆ จึงขอความกรุณาสื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบด้วยครับ”
ทั้งนี้ในคลิปเสียง ที่ลูกสะใภ้คุยกับปลายสายที่ยอมรับว่าเป็น สจ.แอ๊ด เรียกรับเงิน 7 แสนบาท แต่ฝ่ายหญิงต่อรองเนื่องจากหาเงินไม่ทัน และขอแบ่งจ่ายให้ก่อน พรุ่งนี้ และขอความมั่นใจว่าหากให้เงินไป 7 แสนแล้วถามปลายสายว่าจะมั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถช่วยสามีให้พ้นคดีได้ ปลายสายที่เป็นเสียงคล้าย สจ.แอ๊ด ก็ยืนยันว่าตนเองเป็นคนในพื้นที่อยู่บ้านร้องอ้อ ตำบลสันผีเสื้อ เหมือนกัน และที่สำคัญเป็น สจ.เป็นที่รู้จักของชาวบ้าน และอ้างว่าถ้าไม่สามารถช่วยออกมาได้ ให้มารับเงินคืน แต่บอกว่าถ้าช่วยแล้วยังไม่สามารถออกมาได้ตอนนี้ต้องรอทำสำนวนในช่วงเวลา 2-3 เดือนถึงจะช่วยออกมาได้ โดยการันตีว่าหากสั่งไม่ฟ้องก็จะสามารถปล่อยตัวได้ แต่ต้องสอบพยานไป 5 ปากจึงต้องใช้เวลาประมาณ 60 วัน ปิดท้ายคลิปด้วยการเร่งว่าขอเงินมาก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้เพื่อไปช่วยเร่งดำเนินการให้
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเบอร์โทร ตามในคลิปที่ถูกอ้างว่าเป็น สจ.คนดังกล่าว โดยปลายสายรับสายจากผู้สื่อข่าวช่วงเช้าที่ผ่านมา ยอมรับว่าเป็น สจ.ในคลิปเสียงจริง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตามที่โพสต์นั้นตอนเองของไม่พูดถึง และไม่ขอให้สัมภาษณ์กับทางสื่อ ต้องการให้เรื่องจบไป เพราะตนเองเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ทั้งๆ ที่ฝ่ายตรงข้าวนั้นมาร้องขอความช่วยเหลือจากตนเอง ก่อนที่จะตัดสายไป
ทางด้าน นายพิจิตร ทินนัง ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์จริง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับมาควบคุมตัวลูกชายตนเองไปในคดียาเสพติดก็ยังไม่ได้พบหน้ากัน โดยลูกสะใภ้ได้ไปติดต่อกับทางตำรวจ จนทางตำรวจเป็นผู้ให้ให้เบอร์โทรของ สจ.คนดังกล่าวมาบอกว่าให้ปรึกษาคนนี้อาจจะช่วยเรื่องคดีได้ ส่วนตัวแล้วรู้จักว่าเป็นใครแต่ไม่ได้สนิทกับ สจ.คนดังกล่าว เป็นการส่วนตัว พอลูกสะใภ้ได้เบอร์มาเลยโทรไปหาพร้อมกับอัดคลิปการสนทนาไว้ด้วย
ซึ่งจากการเรียกเงินมากถึง 7 แสนภายในวันเดียวทางครอบครัวซึ่งเป็นคนหาเช้ากินค่ำตนเองรับจ้างทั่วไปก็ไม่ได้มีเงินมากหากจำเป็นต้องใช้เงินก็ต้องเอารถเอาบ้านไปจำนำจำนองก่อนซึ่งก็ต้องใช้เวลา จึงไม่คิดว่าครอบครัวจะหาเงินได้เร็วขนาดนั้น อีกทั้งสงสัยว่าการเรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือคดีดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ หรือเป็นการกลั่นแกล้ง ทั้งเรื่องของคดียาเสพติดของลูกชายไปจนถึงเรื่องของการเรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือวิ่งเต้นเรื่องคดี เนื่องจากพบว่ามีพิรุธหลายอย่าง ว่ามีการกระทำเป็นขบวนการหรือไม่
จึงได้ปรึกษาครอบครัวก่อนที่จะโพสต์คลิป และเรื่องราวลงบนโลกออนไลน์ เพื่ออยากให้ไปถึงมือสื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้องได้ช่วยกันตรวจสอบและช่วยเหลือครองครัวของตน หากลูกชายผิดจริงตามหมายจับคดียาเสพติดคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไป แต่ตอนนี้ทางครัวเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัยของลูกชายหลังจากที่ตนเองโพสต์เรื่องนี้ไป เพราะยังไม่รู้ว่าตอนนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหนมีความเป็นอยู่อย่างไร หวั่นว่าจะได้รับอันตราย รวมทั้งความปลอดภัยของครอบครัว ซึ่งฝ่ายตรงข้างนั้นเป็นนักการเมืองและเป็นผู้มีชื่อเสียงทางสังคมด้วยก็ห่วงว่าครอบครัวตนเองอากจจะไม่ปลอดภัยหรือถูกคุกคามจากเรื่องนี้