
มอบตัวแล้วโจรโรคจิตย่องขโมยกางเกงใน และเสื้อชั้นในนักศึกษาสาวในหอพักหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่แท้เป็นนักศึกษาชาย พฤติกรรมแปลกนำไปดมสำเร็จความไคร่ หอบของกลางนับร้อยชิ้นเข้ามอบตัวหลังตกเป็นข่าว ตำรวจคุมตัวดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในหอพักแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณย่านด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังได้รับแจ้งจากทางผู้ดูแลหอพักดังกล่าวว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายที่ไม่ใช่ผู้อาศัยอยู่ภายในหอพัก อายุประมาณ 20 – 30 ปีลักษณะผอมสูงได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดแล้วเดินวนดูลาดเลา ก่อนที่จะอาศัยจังหวะที่ลับตาคนก่อเหตุขโมยชุดชั้นใน และกางเกงในของหญิงสาวที่อาศัยอยู่ภายในหอพัก
ล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 9 ก.พ. 61 พ.ต.ท.นิรันดร์ พสุวรวัฒนกุล ร้อยเวร สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์พร้อมกับพวก ได้ร่วมกันจับกุมตัว หนุ่มอายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมของกลางเป็น กางเกงใน และเสื้อชั้นในผู้หญิง จำนวนมากนับร้อยชิ้น โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ที่ หอพักแห่งหนึ่ง ในย่าน ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความแล้ว
(ดูคลิป)
โดยการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุขโมยชุดชั้นในที่ตากแขวนไว้บริเวณระเบียงหอพักแห่งหนึ่ง โดยสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเพื่อเตือนภัย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิดของหอพัก ทำการสืบจนรู้ตัวคนร้าย จึงได้ทำการติดตามกดดันจนกระทั่งผู้ก่อเหตุได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ได้เข้าตรวจในที่พักของผู้ต้องหาก็พบของกลางเป็นชุดชั้นใน และกางเกงใน จึงยึดไว้เป็นของกลางจำนวนมาก
โดยจากการสอบสวนในเบื้องต้นทางผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยจะนำมาสูดดมขณะสำเร็จความใคร่ โดยภายหลังรู้ตัวว่าตนตกเป็นข่าว และมีภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จึงได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรทางเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายนั้นน่าจะลงมือก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน” ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป