จังหวัดเชียงใหม่ แจ้งเตือนประชาชน ยกระดับป้องกันตัวขั้นสูงสุด หลังพบมีผู้ป่วยโควิด-19 ติดเชื้อกระจายไปทั่ว จึงทำให้ทุกพื้นที่เป็นพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด
สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ยังน่าเป็นห่วง โดยในวันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 2,978 ราย เป็นผลบวกจากการตรวจแบบ RT/PCR 376 ราย และการตรวจ ATK 2,602 ราย ทำให้ล่าสุดมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รักษาตัวสะสมอยู่ 17,662 ราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้มาตรการสำคัญที่จะทำให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ปลอดภัยจากโควิด-19 ก็คือ มาตรการครอบจักรวาล หรือ Universal Prevention For COVID-19 ต้องยกระดับการป้องกันตัวเองในขั้นสูงสุด
ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่งดการรายงานคลัสเตอร์และไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว แต่จะรายงานในภาพรวม เพราะขณะนี้มีการแพร่ระบาดไปทุกพื้นที่ ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน สถานที่ทำงาน หรือแม้แต่ในชุมชนต่างๆ จึงอยากให้ประชาชนตระหนักว่าทุกพื้นที่มีการแพร่ระบาดกระจัดกระจาย ทุกพื้นที่เป็นพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด และคนทุกคนมีความเสี่ยง ฉะนั้นต้องยกระดับความเข้มข้นในการป้องกันตัวเองอย่างสูงสุด ขอความร่วมมือประชาชนชาวเชียงใหม่งดการรวมกลุ่ม งดการเปิดหน้ากาก งดการจัดกิจกรรมต่างๆ งดการทำอาหารร่วมกัน ภายใต้โครงการ “คนเชียงใหม่ รักกัน แยกกันสักพัก เพื่อลด COVID-19” ซึ่งดำเนินการตั้งแต่วันที่ 21 – 27 กุมภาพันธ์นี้
อย่างไรก็ตามมาตรการในการแก้ไขและป้องกันโรคโควิด-19 กับมาตรการทางเศรษฐกิจต้องทำควบคู่กันไป เพราะเชียงใหม่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว หากร้านอาหารตรงไหนมีปัญหา ก็ควรแก้ให้ตรงจุด ไม่ใช่แพร่ระบาดเพียงร้านเดียวแล้วต้องปิดร้านทั้งหมดทั้งจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมา มีการปิดร้านอาหารทั้ง 7 วัน 14 วัน เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในองค์กร หรือ COVID Free Setting เช่นเดียวกับโรงเรียน ที่ทางจังหวัดมีนโยบายให้เปิดเรียนแบบ On Site ทุกแห่ง โดยการควบคุมการแพร่ระบาดว่า หากเกิดการติดเชื้อในห้องเรียนใด ก็จะให้ปิดเฉพาะห้องนั้น หรือเฉพาะชั้นเรียนนั้นเท่านั้น
ทั้งนี้จากสถิติที่ของผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ วันละประมาณ 3,000 ราย แต่สถิติการใช้เตียงลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากการติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์โอไมครอน ที่มีความรุนแรงน้อยกว่าเดลต้า ทำให้มีอัตราการครองเตียงน้อยมาก ขณะนี้ยังมีอัตราเตียงว่างเกือบร้อยละ 70 กระจายไปตามโรงพยาบาลต่างๆ และมีการรักษาในศูนย์แยกกักชุมชน Community Isolation และ Home Isolation ที่ดูแลตัวเองที่บ้าน ซึ่งจะใช้เวลาไม่มาก คือใช้ในเวลาการรักษา 5 วัน สังเกตอาการอีก 5 วัน ดังนั้นโรงพยาบาลสนามในช่วงนี้จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งเพิ่ม
