ความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุ ใช้มีดแทง นายศุภกร ยาวิชัยย์ อายุ 45 ปี อาชีพขับรถตู้รับจ้าง เสียชีวิต ที่บริเวณที่จอดรถ คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านวัดหนองป่าครั่ง กลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็น วันที่ 22 ก.พ.61 ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 สามารถติดตามจับกุม ตัว นายบรรลือ อู่บุญทา อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี คนร้ายที่ก่อเหตุ ได้ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และนำตัวมาทำแผน ประกอบคำรับสารภาพ เมื่อวานนี้ และในช่วงค่ำทางตำรวจได้ทำการขยายผล ออกหมายจับ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่อำเภอเชียงของ จ.เชียงราย จับกุมเพิ่มเติมผู้ต้องหาอีก 1 รายสำคัญ ที่อยู่เบื้องหลังการบงการฆ่าในครั้งนี้ก็คือ นางสาววาทิตา หรือ พัฒน์ บุญต่อม อายุ 32 ปี ภรรยาของนายศุภกร หนุ่มขับรถตู้ผู้ตายเอง โดยสามารถจับกุมได้คางานศพของนายศุภกร สามี
ทั้งนี้จากข้อมูลของตำรวจพบว่า นางสาววาทิตา และนายบรรลือ มือมีด แอบมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเชิงชู้สาว ระหว่างที่นายศุภกร มาทำงานหารายได้ที่จังหวัดเชียงใหม่นานเกือบ 4 ปี เพื่อส่งเงินไปเลี้ยงดูครอบครัวอยู่ที่จังหวัดเชียงรายและนานๆ จะกลับบ้านครั้งหนึ่ง จนกระทั่งนางสาววาทิตา ไปพบกับนายบรรลือ ที่เริ่มมีการติดต่อกันก่อนหน้านี้ทั้งสองคนรู้จักกันสมัยเรียน จนกระทั่งแอบมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันในช่วงที่นายศุภกร สามีไม่อยู่บ้าน และเริ่มมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจนกระทั่งร่วมกันวางแผนฆ่านายศุภกร เนื่องจากกลัวว่าจะถูกจับได้และหวังผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการเสียชีวิตของนายศุภกร ซึ่งมีรายงานว่ามีการทำประกันชีวิตไว้ด้วย
ทั้งนี้หลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงไปถึงตัวนางสาววาทิตา ก็คือ ในช่วงการวันก่อเหตุ นางสาววาทิตาติดต่อกับนายบรรลือ เพื่อแจ้งความเคลื่อนไหวของผู้ตาย จนกระทั่งมาเฝ้ารอก่อนที่จะใช้อาวุธมีดก่อเหตุสยอง และหลังเกิดเหตุ ตำรวจยังได้หลักฐานว่านายบรรลือ ได้โทรไปหานางสาววาทิตา ทันทีเพื่อรายงานผลว่าได้ฆ่านายศุภกรเสียชีวิตแล้ว ก่อนที่จะหลบหนี ซึ่งทางตำรวจได้รวมรวมหลักฐานจนออกหมายจับทันที
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และ สภ.แม่ปิง ได้เดินทางไปรับตัว นางสาววาทิตา ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เชียงของ จ.เชียงราย ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้แล้วตามหมายจับ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อที่จังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าจะเดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเที่ยงของวันนี้.
