
ภาคประชาชน,เอกชน,นักวิชาการและภาคส่วนต่างๆ จับมือร่วมกันเตรียมประกาศเปิดตัว “สภาลมหายใจเชียงใหม่” อย่างเป็นทางการ 9 ก.ย.62 เปิดรับทุกคนเป็นสมาชิก มุ่งเป้าแก้ไขปัญหามลพิษอากาศอย่างยั่งยืน พร้อมทำงานร่วมรัฐทั้งหนุนเสริมและชี้แนะติติง เบื้องต้นเล็งผลักดันใช้ค่ามลพิษมาตรฐานWHO และใช้ “ฝุ่นควัน”แทน“หมอกควัน”
นายบัณรส บัวคลี่ ผู้ร่วมก่อตั้งสภาลมหายใจเชียงใหม่(Chiang Mai Breathe Council) เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนักวิชาการ,บุคลาการทางการแพทย์และสาธารณสุข,ภาคประชาชนและภาคเอกชน ซึ่งทำงานและรณรงค์เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหามลพิษอากาศหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่มาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้หารือและมีความเห็นร่วมกันที่จะก่อตั้ง “สภาลมหายใจเชียงใหม่” ขึ้น โดยเวลานี้นอกจากกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งแล้วกำลังเปิดรับผู้สนใจจากทุกภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันในการที่จะแก้ไขปัญหามลพิษอากาศเข้าร่วมเป็นสมาชิก และเตรียมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ก.ย.62 นี้
ทั้งนี้สภาลมหายใจเชียงใหม่ เกิดขึ้นจากที่กลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งมีความเห็นตรงกันว่าปัญหานี้มีผลกระทบต่อทุกคน โดยที่ทุกคนเป็นทั้งผู้ก่อปัญหาและรับผลกระทบจากปัญหา ขณะที่การป้องกันแก้ไขปัญหานั้น มีความจำเป็นที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ไม่ใช่แต่เพียงการดับไฟที่เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการปัญหาที่ต้องทำอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่างเช่นปัญหาเรื่องการเผาพื้นที่เกษตร ที่จะต้องลดพื้นที่การเผาลงให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนหรือหาวิธีการในการจัดการกับกระบวนการผลิตที่ทำให้ไม่ต้องมีการเผา ไม่ใช่แค่เพียงการเปลี่ยนช่วงเวลาเผา เป็นต้น
ผู้ร่วมก่อตั้งสภาลมหายใจเชียงใหม่ ระบุว่า กิจกรรมหลักๆ ที่จะมีการดำเนินการในช่วงแรกนั้น ได้แก่ การขับเคลื่อนผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่มีการประกาศใช้ค่ามลพิษที่อ้างอิงมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก(WHO) และการให้มีการประกาศใช้คำว่า “ฝุ่นควัน” แทน “หมอกควัน” รวมทั้งจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ไปในระดับชุมชน หมู่บ้าน โรงเรียน เป็นต้น ทั้งนี้ทางสภาพร้อมที่จะรับผู้คนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมเป็นสมาชิกเพราะเป็นกระบวนการที่ต้องการการมีส่วนร่วมของทุกคน ขอเพียงมีความเข้าใจและมีเป้าหมายเดียวกันที่จะขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา
ขณะเดียวกันผู้ร่วมก่อตั้งสภาลมหายใจเชียงใหม่ ย้ำว่า การก่อตั้งสภาลมหายใจเชียงใหม่ ขึ้นมาเพื่อให้พื้นที่ให้ทุกคนช่วยกันมองปัญหาและช่วยกันแก้ไขปัญหา อีกทั้งการทำงานไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับหน่วยงานราชการหรือภาครัฐแต่อย่างใด หากแต่จะเป็นการทำงานร่วมกันมากกว่า โดยสนับสนุนการทำงานในส่วนทิ่เห็นตรงกัน และให้ข้อเสนอแนะในส่วนที่มีความเห็นแตกต่าง แต่ทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันเพื่อแก้ไขปัญหา ทั้งนี้หลังจากที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและรวบรวมสมาชิกแล้ว จะมีการจัดประชุมใหญ่เพื่อกำหนดแนวทางและเป้าหมายต่างๆ อย่างละเอียดร่วมกันต่อไป