faa5568c707688ae3be9338d166d1391.jpg
ปางช้างแม่สา ทำพิธีทางสงฆ์อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ ช้างสีดอกรุงรัตนะ พร้อมผ่าพิสูจน์ก่อนฝังร่างที่ บ้านพักช้างสูงวัย
8e304104c32c0e3c6868f52639ec9041.jpg
พระสงฆ์รับนิมนต์เข้าพื้นที่ บริเวณสวนลิ้นจี่ ใกล้กับบ้านพักช้างสูงวัยของปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อทำพิธีสงฆ์ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ ช้างเพศผู้ สีดอกรุงรัตนะ อายุ 50 กว่าปี หลังจากมีอาการป่วยเรื้องรังมานานกว่าสองปี โดยมีการเจ็บป่วย ไม่แข็งแรง กินอาหารได้น้อย ที่ผ่านมาทางสัตวแพทย์ของปางช้างแม่สา ได้รักษาโดยการให้น้ำเกลือ และเจาะเลือดตรวจสุขภาพ เนื่องจากสภาพร่างกายอ่อนแรง เยื่อเมือกซีด อุจจาระมีลักษณะปนดิน กินอาหารน้อยเลือกกินเฉพาะอาหารที่ชอบ เช่นกล้วยสุก อ้อย หญ้ากินเล็กน้อยเท่านั้น
โดยช้างสีดอกรุงรัตนะ ล้มลงเมื่อเวลา 15.45 น. วานนี้ (18 มีนาคม) หลังจากที่มีการวางแผนนำช้างสีดอตัวดังกล่าว เตรียมนำขึ้นรถบรรทุก เตรียมนำไปรักษาที่ศูนย์อนุรักษ์ช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง แต่มาสิ้นใจเสียก่อน ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาผู้บิหารและควาญช้างเป็นอย่างมาก เพราะดูแลช้างเชือกนี้มาอย่างยาวนาน จากนั้นได้แจ้งต่อปศุสัตว์อำเภอแม่ริมแล้ว
ขณะที่ควาญช้างและคนงานของปางช้างแม่สา นำรถแบคโฮมาขุดหลุมขนาดใหญ่ภายในสวนลิ้นจี่ที่ใช้เป็นสุสานช้างมาหลายเชือกแล้ว และเป็นหลุมสุดท้ายที่จะฝังช้างล้มบริเวณนี้ พร้อมมีพ่อหมอปราชญ์ชาวบ้านมาทำพิธีจุดธูปขอขมา มีการนำอ้อยที่ตัดเป็นท่อนๆ วางไว้บริเวณใกล้กับปากช้างที่ล้มนอนอยู่ ก่อนที่จะมีพิธีปัดรังควาน จากนั้นทางสัตวแพทย์ ได้ใช้มีดทำการผ่าร่างสีดอกรุงรัตนะ เพื่อหาสาเหตุการล้มในครั้งนี้6267998d2eb85be5585d5c1d23ea9f69.jpg
ทางด้าน นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา บอกว่า จากเมื่อเข้ามาบริหารเมื่อ 2 ปี ก่อน มีช้าง 78 เชือก ปัจจุบันที่ปางช้างแม่สาเหลือช้างเพียง 68 เชือก หลังจากสีดอกรุงรัตนะจากไป และหากรวมช้างในปางที่ล้มไปแล้วทั้งหมด ตั้งแต่รุ่นบิดาก่อตั้งมาได้ล้มไปแล้ว 22 เชือก ส่วนใหญ่เป็นช้างชราที่มีปัญหาสุขภาพ ซึ่งหากปล่อยเหตุการณืเป็นแบบนี้เรื่อยๆ ช้างในปางช้างแม่สาจะลดจำนวนลงไปย่างรวดเร็ว2a3070f3a2260957f93ac5e84312a117.jpg
อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาหรือพยุงชีวิตช้างต้องใช้เงินในการดูแลช้างทุกเชือก และดูแลพนักงานที่แต่เดิมมีกว่า 330 คน ก็เหลือเพียง 110 คน ในจำนวนนี้เหลือควาญช้างเพียง 50 คน ซึ่งบางคนต้องดูแลช้างถึง 2 เชือก ซึ่งดูแลได้ไม่ทั่วถึง เพราะขาดเงินในการบริหารงาน เนื่องจากมีปัญหาการจัดการทรัพย์มรดกของบิดา คือนายชูชาติ กัลป์มาพิจิตร ที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2562 และกำลังมีเรื่องฟ้องร้องทางศาลกรณีการจัดการทรัพย์มกรดก กว่า 1,000 ล้านบาท กับภรรยาใหม่ของบิดา และ ลูกสาวภรรยาใหม่ ที่มีชื่อร่วมเป็นทายาทในการจัดการเรื่องมรดก และ เรื่องอยู่ในศาลชั้นฎีกา ที่จะมีการตัดสินเร็ววันนี้ โดยมรดกก้อนนี้ ปัจจุบันก็ไม่สามารถนำมาบริหารจัดการในปางช้างได้ ตนต้องขายที่ดิน และ บ้านพัก ได้เงินมา 20 กว่าล้านบาท มาบริหารงาน ซึ่งก็ร่อยหรอลงไปทุกวัน เนื่องจากแต่ละวันมีค่าใช้จ่ายทั้งอาหารช้างกว่า 10 ตันต่อวัน ค่าพนักงาน และควาญช้าง ขณะที่ปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุด ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวจึงไม่มีรายได้