ญาติของสองเด็กหญิงชาวลีซู ได้รับการเยียวยา และขอขมา กับผู้เสียชีวิตแล้วเป็นที่น่าพอใจของญาติ ขณะที่ผู้กำกับ เจ้าของรถกระบะยอมรับกับญาติช่วงเกิดเหตุตกใจ และภรรยาเป็นโรคหัวใจจึงต้องออกไปจากจุดเกิดเหตุก่อน ส่วน ประธานสมาพันธ์ลีซูแห่งประเทศไทย เผยเมื่อญาติพอใจก็จะปล่อยให้เรื่องของคดีเป็นไปตามกฏหมาย มั่นใจการทำงานของตำรวจตรงไปตรงมา508cab3e3938b8b5e3256e3346d14ec1.jpgความคืบหน้าคดีที่เด็กสาว 2 คนชาวเผ่าลีซู ถูกรถยนต์กระบะขับทับเสียชีวิตแล้วหลบหนีไปเมื่อวันที่ 13 ส.ค.61 ในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ จนญาติต้องโพสต์เรื่องราวลงโซเชียลมีเดียเพื่อขอให้ช่วยติดตามหาตัวคนขับรถกระบะมารับผิดชอบ รวมทั้งนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และสมาพันธ์ลีซูแห่งประเทศไทย ยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือ กระทั่งทราบทะเบียนรถกระบะที่เกิดเหตุ ซึ่งมีนายตำรวจยศพันตำรวจเอกเป็นเจ้าของ และน่าจะเป็นคนขับรถในช่วงเกิดเหตุ โดยต่อมาวันที่ 18 ส.ค.61 นายตำรวจยศพันตำรวจเอกดังกล่าวได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและนำรถคันที่เกิดเหตุส่งมอบให้พนักงานสอบสวนfb9cdc85ffbb011482da5eacfbae868b.jpgวันนี้(22 ส.ค.61)นางจิตตานันท์ เลาลี อายุ39ปี ป้าของเด็กสาวทั้ง 2 คนที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ล่าสุดนายตำรวจยศพันตำรวจเอกคนดังกล่าวได้ติดต่อและนัดพบพูดคุยกับตัวเองและพ่อแม่ของเด็กสาวทั้ง 2 คนที่เสียชีวิตแล้ว โดยพันตำรวจเอกยอมรับว่าเป็นคนขับรถและได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง รวมทั้งขอขมากับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ทำให้ครอบครัวของเด็กสาวทั้ง 2 คน ต้องสูญเสีย 0eebbf12315a4f3f01af328ea3596b8d.jpgพร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบเยียวยาและชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเต็มความสามารถ นอกจากนี้บอกว่าจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้เด็กสาวที่เสียชีวิตด้วย ส่วนสาเหตุที่ไม่หยุดช่วยเหลือนั้น พันตำรวจเอกบอกว่าเนื่องจากช่วงเกิดเหตุภรรยาที่ป่วยเป็นโรคหัวใจและนั่งไปด้วยเกิดอาการช็อค ประกอบกับตัวเองตกใจมากเช่นกัน ซึ่งจากการพูดคุยเจรจากันทางครอบครัวของเด็กสาวที่เสียชีวิตมีความเข้าอกเข้าใจ เห็นใจ และพอใจกับการแสดงความรับผิดชอบของพันตำรวจเอกนายนี้ และให้อภัยต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีความให้เป็นไปตามกระบวนกฎหมาย8cce81fbc3814b1671dc5b2e3b898282.jpgขณะที่นายเจริญ สินลี้ ประธานสมาพันธ์ลีซูแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อคู่กรณีได้พูดคุยเจรจาตกลงและทำความเข้าใจกันได้จนเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งในส่วนของชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และสมาพันธ์ลีซูแห่งประเทศไทย ที่ยื่นมือเข้ามาช่วเหลือคดีนี้จึงจะยุติการเร่งรัดติดตามไว้เบื้องต้นก่อน อย่างไรก็ตามในส่วนขอการดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น 35906768cf3758eb119640dbc6cde685.jpgจากนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งเชื่อมั่นว่าทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ที่ให้ความช่วยเหลือบริจาคเงินให้กับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา โดยจากนี้ขอประชาสัมพันธ์ว่าไม่ต้องบริจาคมาแล้ว เพราะทางคู่กรณีได้มาเจรจา ขอขมาและแสดงความรับผิดชอบทางครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว