ด่ากันยับ โบราณสถานบรรลัย สะเทือนใจชาวพุทธ วิณญาณบรรพบุรุษ กระเจิง จุดพลุบนองค์พระเจดีย์เหลี่ยมซึ่งเป็นโบราณสถานเก่าแก่อายุมากกว่าเมืองเชียงใหม่ ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากร ในพื้นที่ อ.สารภี หาความเหมาะสม หน่วยงานกรมศิลปากร ลงพื้นที่ตรวจสอบเจดีย์ พบยังปกติ เตือนวันเคาท์ดาวน์ ที่จะถึง ไม่ควรทำ
จากกรณีประเด็นดราม่า การจุดพลุไฟ ใส่เจดีย์เหลี่ยม ภายในวัดวัดเจดีย์เหลี่ยม หรือ วัดกู่คำ ตั้งอยู่ติดกับถนนเกาะกลาง ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มีการไลฟ์สดจากพระรูปหนึ่ง ซึ่งเกิดในห้วงค่ำคืนของวัน 9 พฤศจิกายน 2565 สืบเนื่องจาก ในค่ำคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 เป็นคืนส่งท้ายประเพณียี่เป็ง ทางวัดได้ร่วมกับ ประชาชน จัดกิจกรรมส่งท้ายเทศกาลยี่เป็ง มีบรรดานักท่องเที่ยวพากันแต่งกายชุดพื้นเมืองล้านนา อย่างสวยงาม เป็นการจัดงานแบบย้อนยุคขึ้นครั้งแรก เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าวัดทำบุญ พร้อมด้วยการทอดกฐินยี่เป็ง เพื่อถวายแก่พระสงฆ์ โดยเริ่มพิธีบูชาเสื้อวัด เทพยาดาและบูรพมหากษัตริย์ พระสงฆ์สวดมนต์แบบล้านนา เพื่อความเป็นศิริมงคล ให้กับนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่มาร่วม พร้อมการแขวนโคมคู่รัก 100 คู่ และจุดผางประทีบจำนวน 9,999 ดวง เพื่อเป็นพุทธบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รอบองค์พระเจดีย์ กู่คำ และจุดพลุ ก่อนจะพากันไปลอยกระทงเพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา ในแม่น้ำปิงต่อไป
ล่าสุดวันที่ 28 พย 65 ผู้สื่อข่าว สอบถามต่อนายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นยังพบเศษซากของลวด เศษพลุตัวองค์เจดีย์ ได้ให้คำแนะต่อทางวัดให้เก็บทำความสะอาด ส่วนกรณีการจุดพลุ แล้วแตกระเบิดบริเวณปลายยอด ไม่ได้เป็นการจุดในพื้นที่วัดอยู่ด้านนอก แต่มุมกล้องแสง ออกมาเหมือนแตก ระบาดบริเวณจุดปลายยอดนั้นอยู่ด้านนอก ไม่ได้ระเบิดที่ตัวปลายยอดดังคลิป ตรวจสอบแล้วไม่พบมีความเสียหายจากเสียงดังการระเบิดของพลุ ส่วนความเหมาะสมหรือไม่นั้น ไม่เหมาะสมเพราะได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ ซึ่งทางวัดได้ระบุเป็นความเชื่อศรัทธาของญาติโยมที่มาจุดบูชาถวายองค์พระธาตุ เป็นความเชื่อที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน ก็จะได้ถวายคำแนะนำต่อทางวัด ว่าควรจะจัดทำพิธีบูชาอย่างไร นอกจากนี้จะได้นำเรียนถวายแด่คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ในการดูแลองค์พระธาตุพระเจีดย์ต่างๆ อย่างเหมาะสม อันไหนกระทำได้ อันไหนไม่ควรกระทำต่อไป
ทางด้านนายวัลลภ นามวงค์พรหม รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ได้เปิดเผยว่า ตนได้เห็นคลิปที่ลงในโซเซียลแล้ว สะเทือนใจชาวพุทธอย่างมาก มากระทำกับสถานที่หรือวัตถุที่เป็นศรัทธาของชาวบ้าน เลียนแบบต่างประเทศฯทีจุดพุลโดยเอาตึกสูง สร้างสีสัน แต่นี่เป็นสถานโบราณสำคัญของบ้านเมืองและขึ้นทะเบียนกรมศิลป์แล้ว ถือว่าไม่ควรอย่างยิ่ง ก็อยากฝากเตือนอย่าหาทำอีก ใกล้ถึงเทศกาลเคาร์ดาว์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ก็อย่าทำอีก กระทำแบบนี้ถือว่ามีความผิดตามกฏหมาย คิดว่าน่าจะเป็นบทเรียนต่อไป
วัดเจดีย์เหลี่ยม หรือ วัดกู่คำ ตั้งอยู่ติดกับถนนเกาะกลาง ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1831 โดยพญามังราย มีจุดเด่นคือเจดีย์ทรงปราสาทจำนวน 5 ชั้น 20 องค์ มีลักษณะคล้ายคลึงกับเจดีย์กู่กุดในวัดจามเทวี และ สุวรรณเจดีย์ในวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมเจดีย์ในสมัยอาณาจักรหริภุญไชย
