ตร.ภาค5แถลงผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญมูลค่ามหาศาล ยึดของกลางไอซ์148กิโลกรัม และเคตามีน147กิโลกรัม มูลค่าร่วม 600 ล้นบาท หลังซุกรถยนต์จากชายแดนหวังลอบเข้าชั้นในประเทศ แต่ถูกสกัดรวบและขยายผลเตรียมยึดทรัพย์
วันนี้(5มิ.ย.62)ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค5 พลตำรวจโท มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยพลตำรวจตรีสุรพล เปรมบุตร ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครองและ ป.ป.ส. แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ได้ผู้ต้องหา 4 คน ได้แก่นายอัศกร บุญฤทธิ์ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี นางสาววรัญญา สายสร้อย อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี นายเดชาวัต สุขชู อายุ 30 ปีชาวกรุงเทพฯ และนายมงคล ภาศรีเผ่าพงษ์ อายุ 39 ปีชาวกรุงเทพ พร้อมตรวจยึดของกลางยาไอซ์ 148 กิโลกรัม เคตามีน 147 กิโลกรัมและรถยนต์ 5 คัน
โดยการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ทางฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลของ ศอ.ปส.ภ.5 ได้เฝ้าระวังคัดกรองรถยนต์ที่ผ่านจากแนวชายแดนด้านจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายเข้าสู่พื้นที่ตอนใดของประเทศพบว่ามีรถยนต์ต้องสงสัย มาจากอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายจำนวน 1 คัน คือรถยนต์ยี่ห้อ Mitsubishi รุ่น Pajero สีดำ ทะเบียน 5 กก 985 กรุงเทพฯ ผ่านด่านตรวจถ้ำปลาอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย เข้าจังหวัดพะเยาและมุ่งหน้าจังหวัดลำปาง โดยมีรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุสีเทาหมายเลขทะเบียน สย 4207 กรุงเทพ ขับนำและขับตามกัน ซึ่งต่อมา ที่ด่านตรวจแม่พริกอำเภอแม่พริก จังหวัดลำปางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำตามตรวจค้น รถยนต์ กระบะ Isuzu ที่มีนายเดชาวัต เป็นคนขับ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายจึงได้ทำบันทึกและปล่อยตัวไป ขณะที่ต่อมาได้ตรวจค้น รถยนต์ Mitsubishi Pajero ที่มีนายอัศกร เป็นคนขับและนางสาววรัญญา นั่งโดยสารมาด้วย พบ ไอซ์จำนวน 100 ก้อนน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม และเคตามีน 75 ก้อน น้ำหนักประมาณ 75 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในช่องของรถยนต์ที่ดัดแปลงบริเวณเบาะหลัง จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และ ทำการประสานติดตามจับกุม นายเดชาวัต ที่ด่านตรวจพยุหะคีรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์
พลตำรวจโท มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่าขณะนี้ยังมีนายวรวุฒิ มีแสงจันทร์ ที่ยังจับกุมตัวไม่ได้ เป็นหัวหน้าเครือข่ายและผู้จ้างวาน ซึ่งที่ผ่านมาขบวนการนี้ได้ลักลอบทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยนำไปส่งในพื้นที่ภาคกลาง และถ้าหากเทียบสถิติในห้วง 7 เดือน คือตุลาคมถึงพฤษภาคม กับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา มีการจับกุมยาไอซ์และเคตามีนเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 350 เพราะผู้ใช้มีความต้องการสูงขึ้น ไปถึงการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนด้วย 
สำหรับไอซ์ และเคตามีน ล๊อตนี้มีมูลค่าในประเทศประมาณ 589 ล้านบาท (ไอซ์ กิโลกรัมละ 1 ล้านบาท เคตามีนกิโลกรัมละ 3 ล้านบาท) แต่หากลูกนำส่งออกนอกประเทศไปยังประเทศที่ 3 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่าตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับทาง ปปส.ภาค 5 เตรียมขยายผลติดตามเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่นี้เพิ่มเติม พร้อมกับขยายผลยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดรายนี้เพื่อตรวจสอบและอายัดต่อไป
