รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผย มีคำสั่งย้าย 7 ตำรวจ เวียงแหง ออกจากพื้นที่ทั้งหมด ตั้งกรรมแบบบูรณาการสอบข้อเท็จจริง ทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
บ่ายวันนี้ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 พลตำรวจตรีภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเวียงแหง วิสามัญฆาตกรรม นายจะจือ จะอ่อ ในพื้นที่บ้านห้วยไคร้ใหม่ อำเภอวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ หลังช่วงเช้าทีผ่านมากลุ่มชาวบ้านบ้านห้วยไคร้ใหม่ เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องขอความเป็นธรรม ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจการกระทำเกินกว่าเหตุและไร้มนุษยธรรม โดยขอให้ย้ายนายตำรวจมือยิง พร้อมพวกออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีคำสั่งให้ 7 นายตำรวจหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันที และย้ายออกจากพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเวียงแหง 7 นายประกอบด้วย พ.ต.ท.ตรีโลจน์ ปันตี รอง ผกก.สส. สภ.เวียงแหง,ร.ต.อ.ประเวสน์ ชุมแก้ว ,ร.ต.อ.จรัญ ไชยชมพู,ด.ต.สมจิต ขันธปราบ,ด.ต.นิรันต์ วังใน,ด.ต.ชัชวาล วงค์หาญ,ด.ต.จตุพงษ์ ยศเดช ตำรวจชุดวิสามัญ ของ สภ.เวียงแหงเชียงใหม่ เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน พร้อมตั้งคณะกรรมการแบบบูรณาการขึ้นมาแล้ว มีทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และอัยการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งกรณีเรื่องวิสามัญ และเรื่องการที่ชาวบ้านทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งคาดจะมีการสอบและสรุปเสร็จสิ้นภายใน 7 วัน
พร้อมทั้งยืนยันว่านายจะจือ เป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดียาเสพติดของสถานีตำรวจภูธรเวียงแหง และมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดมานานในหลายพื้นที่ทั้งในอำเภอเวียงแหงและอำเภอเชียงดาว และเคยเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มชนกลุ่มน้อยขึ้นตรงกับกลุ่มว้าแดง ในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าจะมีการค้ายาเสพติดที่บริเวณห้วยโป่งปี ท้ายหมู่บ้านจึงเข้าไปตรวจสอบ เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุพบผู้ต้องสงสัย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมา คนซ้อนท้ายสะพายอาวุธปืนไม่ทราบขนาด จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้น แต่คนร้ายเร่งเครื่องรถเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พุ่งรถชนทำให้รถคนร้ายแฉลบคนขับรถวิ่งหลบหนีเข้าป่า ส่วนผู้ตายล้มลงนอนกับพื้น และชักปืนยิงเจ้าหน้าที่ไป 3 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงโต้ตอบ ทำให้นายจะจือบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุชาวบ้านที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่ท้ายหมู่บ้านประมาณ 10 คน เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ และได้เข้าแย่งชิงของกลางคือกระเป๋าที่บรรจุยาบ้าและอาวุธปืน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทำร้ายจนหัวแตกหนึ่งราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีคลิปในขณะเกิดเหตุ และจะตรวจสอบว่ามีใครอยู่ในเหตุการณ์บ้างและจะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มาตรวจสอบเรื่องทั้งหมดนี้อีกครั้งเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
สำหรับเหตุการณ์ที่ 2 หลังจากวิสามัญ มีชาวบ้านและญาติของผู้เสียชีวิต มาดูที่เกิดเหตุและเกิดการชุลมุลปะทะกับเจ้าหน้าที่จนมีเจ้าหน้าที่ศีรษะแตกนั้น ทางตำรวจเองก็มีคลิปเหตุการณ์อีกมุมหนึ่งของตำรวจเช่นกัน และพร้อมที่จะนำชี้แจงยันกับคลิปของชาวบ้านที่ปรากฏในสื่อและโซเซียล ตอนชุนมุลและตอนที่ พ.ต.ท.ตรีโลจน์ ผลักอกผู้หญิง และได้สอบปากคำตำรวจในคลิปแล้ว ซึ่งขัดแย้งกับการให้ข่าวของชาวบ้าน ก็ต้องไปว่ากันและหักล้างกัน การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแบบบูรณาการครั้งนี้ จะมี พล.ต.ต.ชูวัฒน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภาค 5 เป็นประธาน
ต่อข้อถามคดีนี้ เหมือนกับคดีของชัยภูมิ ป่าแส ที่ถูกทหารวิสามัญหรือไม่. พล.ต.ต ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภาค 5 ก็มีส่วนคล้ายกัน แต่คดี่ของชัยภูมิ ป่าแส นั้น เป็นการวิสามัญเยาวชน ส่วนคดีที่ อ.เวียงแห่ง นั้นเป็นการวิสามัญ ผู้ต้องค้ายาเสพติดมีหมายจับอยู่แล้ว การตรวจสอบการ ร้องเรียน ต่าง ๆ คงมีลักษณะคล้ายกัน ก็ต้องว่ากันต่อไป
