
ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด เป็นเฮโลอีนล้อตใหญ่ที่สุดในรอบ 4 ปี น้ำหนักรวม 35 กิโลกรัม รูปแบบเพจเกจแบบใหม่ทำเป็น “ผงแป้ง” บรรจุถุงพลาสติกใสคล้ายถุงแป้ง โลโก้สิงโตคู่เหยียบลูกโลก เชื่อมีการปรับแพคเกจเพื่อง่ายต่อการลักลอบขนลำเลียงและอำพรางออกไปประเทศที่ 3 มูลค่าเป็นพันล้านหากถึงลูกค้าในต่างประเทศ
พลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นำกำลังสกัดจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายอาทิตย์ จะวอ ,นายจะอื่อ จะทอป่า และนายจะนู ได้ในพื้นที่ตำบลทุ่งข้าวงพวง และตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้จัดกำลังติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด จนกระทั่งพบกลุ่มผู้ต้องหาคือนายอาทิตย์และเพื่อน กำลังขนสิ่งของขึ้นรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ผก-1509 เชียงใหม่ ภายในสุสานบ้านทุ่งข้าวหลวง ตำบลทุ่งข้าวพวง จึงเข้าจับกุมตัวนายอาทิตย์ ไว้ได้ส่วนเพื่อนอีกคนคือนายอาคาริ หลบหนีไปได้ ตรวจยึดของกลางเป็นเฮโรอีน ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีดำรวม 100 ถุง น้ำหนักรวม 35 กิโลกรัม
จากนั้นได้ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการคือ นายจะอื่อ และนายจะนู ได้ในพื้นที่ตำบลปิงโค้ง จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายลีซึ่งเป็นตนจีน และนายจะนะซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย โดยจะลำเลียงเฮโรอันทั้งหมดจากแนวชายแดนจังหวัดเชียงใหม่เพื่อไปส่งให้เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อเตรียมที่จะลักลอบส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป
สำหรับการตรวจยึดเฮโรอันในครั้งนี้ ถือว่า ได้ของกลางมากที่สุดในรอบกว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา และมีการปรับเปลี่ยนมาบรรจุภันฑ์ใหม่ จากที่เคยอัดแท่งเป็นก้อนสี่เหลี่ยมก้อนละ 1 กิโลกรัม แต่ครั้งนี้มาในแบบผงแป้งสีขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ประทับตราสิงโตคู่เหยียบลูกโลกสีแดง ซึ่งทางผู้การสืบภาค 5 เผยว่าที่มีการปรับเปลี่ยนแพคเกจเป็นผงแป้งบรรจุถุงแบบนี้ถือว่าพบเป็นครั้แรก คาดว่าน่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อง่ายต่อการลักลอบขนลำเลียง และอำพราง ทั้งในส่วนของการลักลอบนำเข้าประเทศไทย เป็นทางผ่านและคาดว่าจะลักลอบนำออกไปทางภาคใต้สู่ปลายทางในประเทศที่ 3 ต่อไป
ซึ่งมูลค่าทั้งหมดหากนำเข้ามาถึงในพื้นที่ภาคเหนือจะอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท และหากไปถึงภาคกลางจะขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 20 ล้านบาท และถ้าหากไปถึงปลายทางประเทศที่ 3 ได้ก็จะมีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นไปถึงหลักพันล้านบาทได้