นักอนุรักษ์ ปธ.กลุ่มอนุรักษ์ลุ่มแม่น้ำปิง เดินเท้าจากเชียงดาวถึงเชียงใหม่แล้ว เตรียมร่วมชุมนุมใหญ่ “ทวงสัญญาป่าแหว่ง” ที่ประตูท่าแพ พรุ่งนี้(26ส.ค.61) ย้ำดอยสุเทพเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่แค่ทรัพยากร สร้างบ้านพักศาลถูกกฎหมายแต่ผิดจารีตประเพณี
วันนี้(25 ส.ค.61) นายนิคม พุทธา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มแม่น้ำปิง พร้อมด้วยคณะที่ทำกิจกรรม “เดินบูชาเพื่อดอยสุเทพ” ด้วยออกเดินเท้าจากดอยหลวงเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.61 ได้เดินทางถึงเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่แล้ว เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม “รวมพลังหัวใจสีเขียว ทวงสัญญาป่าแหว่ง” ของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้(26 ส.ค.61) ที่บริเวณลานประตูท่าแพ ในตัวเมืองเชียงใหม่ 
ซึ่งเป็นการนัดชุมนุมใหญ่ เพื่อเป็นการทวงสัญญากรณีการแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลทำให้เกิดความชัดเจนโดยเร็วที่สุดว่าจะรื้อถอนบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง พร้อมทั้งส่งมอบพื้นที่คืนเพื่อฟื้นฟูป่าให้กลับมาสมบูรณ์
โดยช่วงเวลาประมาณ 13.30 น.นายนิคม พร้อมด้วยคณะได้เดินเท้าตามเส้นทางถนนคันคลองชลประทานจากบริเวณสี่แยกกองพันสัตว์ต่าง แล้วแวะที่บริเวณด้านหน้าที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ซึ่งด้านหลังเป็นที่ตั้งของโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัย พร้อมสวดบทแผ่เมตตา จากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นได้เดินเท้าต่อมุ่งไปที่ลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย บริเวณเชิงดอยสุเทพ เพื่อเตรียมร่วมกับเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพและผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรม “รวมพลังหัวใจสีเขียว ทวงสัญญาป่าแหว่ง” ประกอบพิธีสักการะพระธาตุดอยสุเทพและครูบาศรีวิชัย พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอพลังและรวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพอันศักดิ์สิทธิ์
ทั้งนี้นายนิคม เปิดเผยว่า เริ่มต้นออกเดินจากดอยหลวงเชียงดาวที่ถือว่าเป็นต้นกำเนิดสายน้ำแม่ปิงมายังดอยสุเทพที่เป็นป่าต้นน้ำสำคัญของน้ำแม่ปิงเช่นกัน เพื่อระลึกถึงคุณของครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ที่ปกปักษ์รักษาดอยสุเทพมาตั้งแต่อดีต รวมทั้งเป็นการภาวนาให้กับผืนป่าดอยสุเทพและสรรพสัตว์ด้วย โดยในส่วนของโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 นั้น แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่ขัดจารีตประเพณีท้องถิ่นของคนล้านนา 
ที่สถาปนาให้ดอยหลวงเชียงดาว,ดอยอินทนนท์ และดอยสุเทพ เป็นดอยศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นการจะใช้ประโยชน์ใดๆ ต้องทำด้วยความเคารพนอบน้อมและเกื้อกูล ไม่ใช่ในลักษณะของการบุกรุกทำลาย เพราะดอยสุเทพไม่ได้เป็นแค่เพียงทรัพยากร แต่ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณค่าต่อจิตใจของคนเชียงใหม่และล้านนาด้วย โดยการเดินภาวนาครั้งนี้ยังเป็นการส่งจิตใจให้ทุกฝ่ายทั้งรัฐบาล เจ้าหน้าที่ และประชาชน มีเมตตาต่อกันและร่วมกันแก้ไขปัญหาได้ด้วยดี
