นาทีระทึก!สาวเจ้าของคลิปเตือนภัยเล่าคำต่อคำถูกหนุ่มขี่ จยย.ชูนิ้วกลางขับปาดขวางรถยนต์

นาทีระทึก!สาวเจ้าของคลิปเตือนภัยเล่าคำต่อคำถูกหนุ่มขี่ จยย.ชูนิ้วกลางขับปาดขวางรถยนต์แถมส่ายไปมาและปล่อยมือลุกขึ้นยืนบนเบาะกลางถนนคูเมืองเชียงใหม่ เผยลูกสาววัย12ปีนั่งอยู่ในรถด้วย ทั้งกลัวทั้งตกใจ ต้องปลอบยกใหญ่ ยันไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(28 พ.ค.62) ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “Jeep Jenjira Pansena ” ได้โพสต์ภาพคลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์น่าหวาดเสียวระหว่างที่ขับรถยนต์อยู่บนถนนรอบคูเมืองด้านนอก ในตัวเมืองเชียงใหม่ ปรากฏว่าชายหนุ่มคนหนึ่งที่คล้ายคนอยู่ในอาการมึนเมาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะที่น่าหวาดเสียวและเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย ด้วยการขับส่ายไปมาขวางหน้ารถยนต์เหมือนจะท้าทายหาเรื่อง และมีการปล่อยมือจากแฮนด์รถแล้วลุกขึ้นยืนด้วย ทั้งที่รถจักรยานยนต์ยังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็ว จนกระทั่งในที่สุดได้นั่งลงและขับรถเลี้ยวไปคนละทางแยกย้ายกันไปทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าวที่อยู่ในรถยนต์ได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ แล้วนำเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดียเพื่อเตือนภัย ซึ่งปรากฏว่ามีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ตำหนิพฤติกรรมการขับขี่รถของชายหนุ่มในคลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นชาวต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่และเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิดแล้ว คาดว่าน่าจะหาตัวได้โดยเร็ว เนื่องจากมีหมายเลขทะเบียนรถชัดเจนโดยจากการตรวจสอบทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าว คือ นางสาวเจนจิรา สุพรรณ์ อายุ 31 ปี ชาวอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ อาชีพพนักงานเชียงใหม่ ซู อควาเรียม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันนี้(28 พ.ค.62) เวลาประมาณ 06.30 น.ระหว่างที่ตัวเองกับสามีกำลังขับรถยนต์ไปส่งลูกสาวอายุ 12 ปี ที่โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ซึ่งระหว่างที่ขับรถไปตามถนนด้านนอกคูเมือง ช่วงบริเวณหน้าประตูท่าแพ ปรากฏว่ามีผู้ชายคนดังกล่าวขับรถจักรยานยนต์มาจี้ท้ายและบีบแตรใส่ ก่อนที่จะเร่งแซงขึ้นมาทางด้านข้างพร้อมยกนิ้วกลางให้ด้วย จากนั้นแซงไปข้างหน้า พร้อมกับแสดงท่าทางการขับขี่หวาดเสียวและเป็นอันตราย ทั้งขับส่ายไปส่ายมา และลุกขึ้นยืนบนเบาะ ตัวเองจึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือ บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้และนำมาโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียเพื่อเตือนภัยทั้งนี้ยืนยันว่าระหว่างที่ขับรถไปตามทางนั้น สามีซึ่งเป็นคนขับรถไม่ได้มีการขับที่กระทบกระทั่งกับรถคันอื่นๆ บนถนนเลย จึงไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายคนดังกล่าวต้องขับขี่ในลักษณะนั้น โดยในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ลูกสาวรู้สึกตกใจกลัวอย่างมากจนต้องปลอบ ส่วนสามีโกรธและโมโหเช่นกัน แต่ได้เตือนสติกันให้ใจเย็น จนผ่านพ้นเหตุการณ์ไปได้ด้วยดี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้นไม่ได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด แต่ได้นำคลิปไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียเพื่อเตือนภัย และเป็นอุทาหรณ์ เตือนสติ ผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าโชคดี ที่ช่วงเวลาดังกล่าวนั้น รถบนถนนเบาบางไม่เช่นนั้นแล้ว อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ได้