สองสามีภรรยานักท่องเที่ยวจีนสุดประทับใจหนุ่มใหญ่ พนง.ขับรถคณะแพทย์ มช.เก็บกระเป๋าที่มีเอกสารสำคัญและเงินสดกว่า 4 หมื่นบาท ส่งคืนให้ครบถ้วน ทั้งที่หมดหวังแล้ว
วันนี้(27 มิ.ย.62) ที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ร้อยตำรวจกร สุขสวัสดิ์ รองสารวัตรสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรภาค5 พร้อมพวกนายไมตรี พึ่งวิทยาธร อายุ 48 ปี พนักงานขับรถศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้ามาลงบันทึกประจำวันหลังจากที่เก็บกระเป๋าเงินของนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ บริเวณถนนคันคลองชลประทานขาเมือง เข้าใกล้กับเทศบาลตำบลสุเทพ และประสานติดต่อเจ้าของตามเอกสารที่พบในประเป๋าเพื่อมารับคืน
โดยในกระเป๋ามีเงินไทยกว่า 35,000 บาท และเงินหยวน อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกับบัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต และเอกสารสำคัญของ นายเชิ่น เล่อ นักท่องเที่ยวชาวจีน ก่อนที่ทางตำรวจจะประสานกับทางเจ้าตัว พร้อมด้วยภรรยา และเดินทางมารับกระเป๋า และทรัพย์สินคืน ซึ่งทันทีที่นายเซิ่น เล่อ และนางหวัง เสี่ยว ถิง ภรรยา เดินทางมาถึงสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ และได้พบกับนายไมตรี ผู้ที่เก็บกระเป๋าเงินได้ ได้แสดงความดีใจ พร้อมขอบคุณและชื่นชมนายไมตรี อย่างมากที่ถือเป็นบุคคลตัวอย่าง พร้อมยกย่องให้เป็นพลเมืองดีของชาวเชียงใหม่ โดยทรัพย์สินถายในกระเป๋า และเอกสารต่างๆ อยู่ครบถ้วน
ทั้งนี้นางหวัง เสี่ยง ถิง เปิดเผยว่า ตนเองกับสามี และลูกสาวอีกคน เดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่หลายครั้ง และรู้สึกชื่นชอบจังหวัดเชียงใหม่ และผู้คนชาวเชียงใหม่ และชาวไทย โดยการท่องเที่ยวรอบนี้จึงพาลูกสาวมาเรียนภาษาด้วย และอยากจะมาอยู่ที่นี่นานๆ จึงได้เช่าบ้านพักอยู่แถวตำบลสุเทพ และเมื่อเช้าตนเอง และสามีได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามเส้นทางดังกล่าว ก่อนที่จะมาทราบภายหลังว่ากระเป๋าเงินตกหาย อย่างไรก็ตามไม่รู้ว่าหายที่ใด
เบื้องต้นจึงได้ประสานเจ้าของบ้านที่ตนเองเช่าอยู่ให้ช่วยตามหา แม้ว่าจะมีความหวังน้อยนิดว่าจะได้คืน เนื่องจากภายในมีเงินจำนวนมาก แต่ที่ห่วงมากที่สุดคือบัตรต่างๆ และเอกสารสำคัญที่หากไม่ได้คืนต้องดำเนินการใหม่ ซึ่งค่อนข้างจะยุ่งยากมาก จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีพลเมืองดีเก็บกระเป๋าเงินของตนได้และทุกอย่างยังอยู่ครบถ้วน จึงได้มอบสินน้ำใจให้กับนายไมตรี จำนวน 5,000 บาท แม้ว่านายไมตรี จะปฏิเสธ แต่ตัวเองยืนยันให้รับไว้
ขณะที่นายไมตรี เปิดเผยว่า ตนเองขับรถตู้ของ ศูนย์ความเป็นเลิศฯ คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาในเส้นทางดังกล่าว และเห็นว่ามีกระเป๋าเงินตกอยู่แต่ขับเลยผ่านไปแล้วจึงนึกในใจว่าต้องกลับไปเก็บเพื่อส่งคืนเจ้าของ เพราะตนเองเคยประสบเหตุกระเป๋าเนหายมาแล้วครั้งหนึ่งรู้สึกถึงความทุกข์ใจของผู้ที่ทำของหาย จึงได้ขอเจ้าหน้าที่ที่นั่งมาในรถขอวนกลับไปดู แต่ก็ไม่คิดว่าเมื่อวนกลับมาแล้วกระเป๋ายังอยู่ที่เดิม จึงได้ประสานกับทางร้อยตำรวจเอกกร ซึ่งเป็นคนรู้จัก ให้ช่วยประสานตำรวจท้องที่ติดตามคืนเจ้าของได้ในที่สุด แต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าของกระเป๋าเงินทั้ง 2 คนจะดีใจมากเช่นนี้ ก็ยิ่งเข้าใจถึงหัวอกคนที่ทำของหาย.
