รายงานข่าวแจ้งว่าช่วงคืนวันที่ 18 เม.ย.61 เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย บุกเข้าไปรุมทำร้ายนายประชัญ บัวชุม อายุ 70 ปี และ นายอนัญวิชญ์ บัวชุมโชติพงษ์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพ่อลูกกันในบริเวณบ้านพักบ้านเลขที่ 128 และ บ้านเลขที่ 144 ที่อยู่บริเวณเดียวกัน หมู่ 5 ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกายหลายแห่ง โดยเฉพาะศีรษะและใบหน้า โดยเฉพาะนายประชัญ ที่เป็นผู้สูงอายุ ถูกของแข็งตีเข้าที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ต้องเย็บ 8 เข็ม ซึ่งสาเหตุมาจากการที่กลุ่มวัยรุ่นมาถามหานายบอม(นามสมมติ) อายุ 26 ปี ลูกชายของนายอนัญวิชญ์และหลานของนายประชัญ เพื่อติดตามทวงหนี้ค่าเช่าห้องจำนวน 2,400 บาท

ทั้งนี้นายอนัญวิชญ์ ได้บอกว่าลูกชายไม่อยู่บ้านและไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด เพราะช่วงนี้ไม่ได้ติดต่อกัน โดยปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่นำโดยนางสาวแพรวา(นามสมมติ) เกิดความไม่พอใจ พร้อมตำหนิและต่อว่านายอนัญวิชญ์ ด้วยถ้อยคำรุนแรง จนเกิดการโต้เถียงกัน จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้เริ่มลงมือทำร้ายร่างกายนายอนัญวิชญ์ จนได้รับบาดเจ็บ บริเวณใบหน้า ศีรษะและตามร่างกาย ขณะที่นายประชัญ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนายอนัญวิชญ์ ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวาย จึงออกมาห้ามปราม และขอร้องให้พูดคุยกันดีๆ แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่สนใจ และหนึ่งในนั้นได้โทรศัพท์เรียกพรรคพวกมาสมทบอีก แล้วกรูกันเข้ารุมทำร้ายนายอนัญวิชญ์ และนายประชัญ ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ จนได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลและแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด เพื่อติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดี

วันนี้(21 เม.ย.61) นายประชัญ บัวชุม อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกรุมทำร้าย เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงประมาณ 21.00 น.คืนวันที่ 18 เม.ย.61 ระหว่างที่พักผ่อนอยู่ในบ้านพักกับหลานสาวอายุ 3 ปี ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจึงออกมาดูพบว่ากลุ่มวัยรุ่นได้มาสอบถามหาหลานชายเพื่อติดตามทวงถามเงินค่าเช่า แต่นายอนัญวิชญ์ ซึ่งเป็นลูกชายบอกว่าไม่รู้ว่าหลานชายอยู่ที่ใด จนเกิดการโต้เถียงกัน และมีการทำร้ายร่างกายนายอนัญวิชญ์  ตัวเองจึงได้พยายามเข้าไปห้ามปรามกลุ่มวัยรุ่นที่มีนับสิบคนให้หยุดรุมทำร้ายร่างกายลูกชาย แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่สนใจและยังบังคับให้ตัวเองกราบเท้าจึงจะยอมหยุด กระทั่งลูกชายที่เลือดท่วมสะบัดตัวหลุดและวิ่งหนีเข้าไปหลบในบ้านพร้อมโทรแจ้งตำรวจ ขณะที่ตัวเองถูกหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นใช้ของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลใหญ่ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นจึงได้หลบหนีไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้น นายประชัญ ระบุว่า รู้สึกสะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวนี้มาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันอายุ 70 ปี แล้ว ในละแวกบ้านไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ขณะที่หลายสาวอายุ 3 ปี ซึ่งเห็นเหตุการณ์ยังมีอาการหวาดผวาเช่นกัน ส่วนอาการบาดเจ็บนั้น ในส่วนของบาดแผลที่บริเวณเหนือหน้าผากซ้ายลึกประมาณ 2 เซนติเมตร ต้องเย็บ 8 เข็ม ดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตามมีอาการข้างเคียง ทั้งปวดศีรษะและตาข้างซ้ายพร่ามัว จะต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดด้วยเครื่องสแกนสมองอีกครั้ง ทั้งนี้อยากวิงวอนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดโดยเร็ว เพราะเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจและรุนแรง เนื่องจากบุกเข้ามาในบริเวณบ้านช่วงกลางคืน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ตัวเองและลูกชาย