“สว.ก๊อง” ปธ.เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ดและว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. จวก กกท.ทำวงการฟุตบอลเชียงใหม่เสียหาย หลังโครงการปรับปรุงสนาม700ปี ไร้ความคืบหน้า ทำ 2 สโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ในการแข่งขันอาชีพต้องย้ายสนามเหย้า เผยหากชนะเลือกตั้งผุดแน่สนามฟุตบอลมาตรฐานของ อบจ.  cb224dead7a7af1806f8fc40b28c0fe1.jpgจากกรณีที่มีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิเกี่ยวกับการปรับปรุงสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ของ กกท.ภาค 5 ที่ได้รับงบประมาณกว่า570ล้านบาทเพื่อดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2561 สำหรับใช้รองรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 8-26 ม.ค.63 โดยก่อนหน้านี้ 2 สโมสรฟุตบอลของเชียงใหม่ ทั้งเชียงใหม่ เอฟซี และเจแอลเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ปกติใช้สนามดังกล่าวเป็นสนามเหย้าในการแข่งขัน ได้รับผลกระทบอย่างมากจากต้องย้ายไปใช้สนามอื่นแทน อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในการปรับปรุง และสภาพเหมือนถูกปล่อยทิ้งbbab435f1024f2bbd4685f9dcf7a112f.jpgนายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร ประธานสโมสรฟุตบอลเจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ทีมในไทยลีก 2 และว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุที่การดำเนินการปรับปรุงไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากทาง กกท.ภาค5 ไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ทัน อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายให้กับวงการฟุตบอลของจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก เพราะมี 2 สโมสรที่ปกติใช้สนามดังกล่าวแข่งขันในบ้านeb6018cec1ec64f999d2d57b88868aa9.jpgโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชียงใหม่ เอฟซี ที่ปีนี้เพิ่งขึ้นชั้นสู่การแข่งขันไทยลีกเป็นครั้งแรก และนัดการแข่งขันกับทีมใหญ่ แต่ไม่สามารถใช้สนามในบ้านได้ ต้องไปใช้สนามอื่น  เช่นเดียวกับเจแอลเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของนักฟุตบอลและแฟนบอลอย่างมาก อีกทั้งยังทำให้เชียงใหม่เสียโอกาสอื่นๆ อีกด้วย ทั้งนี้ไม่มั่นใจด้วยว่าการปรับปรุงสนามจะเสร็จทันช่วง มี.ค.-เม.ย.63 หรือไม่ ซึ่งเห็นว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้เป็นความรับผิดชอบและความผิดพลาดของ กกท.f0d66305fde2047406eedb34d22d271f.jpgประธานสโมสรฟุตบอลเจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด บอกว่า ปกติที่ใช้สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ในการแข่งขันนัดในบ้านจะต้องเสียค่าใช้สนามให้กับ กกท.และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมทั้งสิ้นกว่าแสนบาท ซึ่งอนาคตสโมสรมีแผนงานพัฒนาที่จะสร้างสนามเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตามยอมรับว่าต้องใช้งบลงทุนสูงและอาจจะต้องรอให้มีความพร้อมเสียก่อน แต่ในฐานะที่เป็นว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หากชนะการเลือกตั้งจะผลักดันให้ อบจ.เชียงใหม่ มีสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานเป็นของตัวเอง เหมือนจังหวัดใหญ่อื่นๆ เพราะมองว่าปัจจุบันกีฬาฟุตบอลเป็นที่นิยมชื่นชอบของผู้คนอย่างมาก รวมทั้งเชียงใหม่ที่เกิดกระแสตื่นตัวอย่างมากจากการที่มีสโมสรฟุตบอลที่กำลังทำผลงานดี.