คืบหน้ายิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอจอมทอง จ.เชียงใหม่ เสียชีวิตในป่า พร้อมกับมือถือและลำโพงบลูทูธเปิดเสียงสัตว์ เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มลักลอบล่าสัตว์ป่าเข้าใจผิด ผู้ตายชอบฟังเสียงสัตว์ เข้าไปเปิดในชายป่าใกล้กับไร่ข้าวโพดของตัวเอง ผกก. สั่งเร่งไล่ล่ามือยิงเชื่อเป็นกลุ่มนายพรานในพื้นที่เอง4060fb8f8192ef59d47ca7b3e274d3df.jpg
สำหรับความคืบหน้าเหตุการณ์ที่ มีชาวบ้าน พบศพ นายไชยรัตน์ แซ่วะ อายุ 31 ปี ที่อยู่ 404 หมู่ที่ 14 ตำบลแม่สอย อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นอนเสียชีวิต อยู่ในป่าที่เกิดเหตุ สภาพศพ สวมเสื้อยืดแขนยาว สีเขียว สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าบูท สีน้ำตาล พบว่าตรงบริเวณหน้าผาก และกกหูขวา มีร่องรอยถูกกระแทกด้วยของแข็งไม่มีคม และใบหน้าและลำตัวถูกกระสุนปืน(ลูกปราย) คาดว่าเป็นกระสุนปืนแบบไทยประดิษฐ์ ( ปืนแก๊ป ) เชื่อได้ว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืน และทางเจ้าหน้าที่ได้ นำศพ นายไชยรัตน์ฯ ส่งผ่าตรวจพิสูจน์ที่ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่c105f51496982a44023185a3dda1a687.jpg
ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.ดำเนิน กันอ่อง ผกก.สภ.จอมทอง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งศพของผู้ตายเพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิต ในเบื้องต้นพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนลักษณะของปืนแก๊ปล่าสัตว์ ที่มีการใส่เม็ดตะกั่วไว้หลายเม็ด ฝังตามร่างกาย โดยเฉพาะที่ศรีษะ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมาจากปืนกระบอกเดียว และยิงครั้งเดียว ส่วนรอยช้ำที่ร่างกายยังต้องพิสูจน์โดยละเอียดอีกครั้งว่ามาจากสาเหตุอะไร ยังไม่ปักใจว่ามีการทำร้ายร่างกายซ้ำด้วยการทุบตี ส่วนการสอบสวนพยาน พบว่าผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีผู้ใหญ่บ้านเดียวกันและเป็นคนใกล้ชิด ได้ให้ปากคำกับตำรวจว่า ผู้ตาย มีไร่ข้าวโพดของตัวเอง ใกล้กับที่เกิดเหตุ และอ้างว่าผู้ตายไม่มีพฤติกรรมล่าสัตว์ ซึ่งที่เปิดฟังเสียงสัตว์ผ่านลำโพงบลูทูธที่พบในที่เกิดเหตุพร้อมมือถือที่เชื่อมต่อ เชื่อว่าผู้ตายเป็นผู้ที่ชื่นชอบการฟังเสียงนก และเสียงสัตว์มากกว่า แต่ทางตำรวจเองก็ต้องรอสอบสวนอีกครั้งว่าเป็นพรานป่าเองด้วยหรือไม่ ทั้งนี้เบื้องต้นแพทย์ที่เข้าตรวจพลิกศพในวันแรกที่พบศพเวลาประมาณ 12 นาฬิกานั้นบอกว่าผู้ตายเสียชีวิตมาประมาณ 12 ชั่วโมงซึ่งเป็นช่วงกลางคืน ด้วย2ebbdf206684f286fe4f8f20d8c2d894.jpg
ทั้งนี้แนวทางการสืบสวนก็จะพุ่งเป้าผู้ก่อเหตุไปยังกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ที่มีพฤติกรรมชอบล่าสัตว์ ที่อาจจะเข้าใจผิดว่าผู้ตายเป็นสัตว์ป่า และได้ยินเสียงสัตว์ที่เปิดจากลำโพง จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าในพื้นที่ใกล้เคียงมีกลุ่มพรานป่าที่ชอบล่าสัตว์ประมาณ 50 คน ก็เชื่อว่าจะเสาะหาตัวคนร้ายได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องขอเวลาให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็ได้กำชับมาให้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และเร่งรัดการทำงาน