จากกรณีที่เมื่อวันที่ 30 มี.ค.61 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบอำนาจให้ป้องกันจังหวัดเชียงใหม่นำหลักฐานเข้าดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากพิจารณาเห็นความไม่เหมาะสมกรณีที่ปรากฏภาพในสื่อคอมพิวเตอร์ใช้ชื่อว่า “Citylife Chiang Mai” ได้เผยแพร่ภาพเกี่ยวกับบรรพกษัตริย์สามพระองค์ผู้สร้างเมืองเชียงใหม่โดยมีหน้ากากสวมปิดพระพักตร์ ทั้งสามพระองค์ และมีข้อความเป็นภาษาไทยว่า “มาร่วมกันเอาอากาศของเราคืนมา” และข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า “Powerful painting by student at Prem,Piyapan Thiamthakorn,who pained this as part of grade 12 IB Diploma” ลงในเฟซบุ๊ค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเชิญชวนคนเข้าร่วมกิจกรรมรวมตัวกันสวมใส่หน้ากากอนามัยรณรงค์ปัญหาคุณภาพอากาศที่สื่อดังกล่าวจะจัดขึ้น แต่ต่อมามีการนำเสนอข่าวและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แจ้งความเอาผิดกับเด็กนักเรียนที่วาดภาพbf7d653a5963f4c0aa54bde893f0b9a3.jpg

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่าการเข้ากล่าวโทษต่อพนักงาสอบสวนดังกล่าวนั้น ไม่ได้จะเอาผิดกับเด็กนักเรียนที่วาดภาพหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเด็กนักเรียนที่วาดภาพเลย แต่เป็นการกล่าวโทษกับเพจของสื่อที่มีการนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่เท่านั้น โดยทราบดีว่าการจัดกิจกรรมที่สื่อดังกล่าวต้องการจะจัดขึ้นมีเจตนาดีที่ต้องการจะเรียกร้องคุณภาพอากาศที่ดี ซึ่งเป็นเจตนาและจุดหมายเดียวกับจังหวัดเชียงใหม่และทุกภาคส่วนที่พยายามทำงานอยู่ เพียงแต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าวิธีการอาจจะไม่เหมาะสมที่มีการนำเอาบรรพกษัตริย์ผู้สร้างเมืองเชียงใหม่ไปใช้ในลักษณะดังกล่าว ที่กระทบกระเทือนความรู้สึกของผู้คนชาวเชียงใหม่ และอาจจะเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ. ศ. 2550

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ย้ำด้วยว่าไม่ได้ตำหนิและไม่เคยขัดขวางเจตนาที่จะจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อคุณภาพอากาศที่ดีดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการให้ตระหนักถึงวิธีการที่เหมาะสม ขณะที่ในส่วนของเด็กนักเรียนที่เป็นผู้วาดภาพดังกล่าวนั้น ย้ำเช่นกันว่าทางจังหวัดเชียงใหม่ไม่เคยคิดและไม่ได้จะเอาผิดกับเด็กนักเรียนอย่างแน่นอน โดยเบื้องต้นได้มีการทำความเข้าใจกับเด็กนักเรียนผ่านทางฝ่ายผู้ปกครองที่รู้จักกับเด็กนักเรียนคนนี้แล้ว ซึ่งทางด้านเด็กนักเรียนคนนี้เข้าใจดีและทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าการเข้ากล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนดังกล่าวนั้น ไม่ได้กล่าวโทษเด็กนักเรียน แต่เป็นกล่าวโทษในส่วนของสื่อที่มีการนำไปเผยแพร่.