ตำรวจภูธธรภาค 5 จับยาเสพติดล็อตใหญ่ได้ 106 กิโลกรัม แถลงผลงานขณะตรวจสอบสารเสพติดถึงกับงง เมื่อพบว่าเป็นครั้งแรกในการจับกุมยาเสพติดที่พบตัวยาเสพติดสองชนิดผสมกัน คือยาไอซ์ และยาเค ผสมมาในตัวเดียวกัน เร่งส่งให้ ปปส.ภาค 5 ตรวจวิเคาระห์โดยละเอียดเพื่อหาเหตุผลว่าเป็นตัวยาเสพติดชนิดใหม่หรือไม่เพื่อวิเคราะห์การผลิตการขนส่งไปจนถึงปลายทางพฤติกรรมของผู้เสพเปลี่ยนแปลงไปหรือใหม่ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยพลตำรวจตรี ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ได้ผู้ต้องหาหนึ่งคนคือนายภานุวัฒน์ ยานุมาศภูษิต อายุ 36 ปีอยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 13 ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย จับกุมได้ที่บริเวณริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ – ลำปาง หน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นพื้นที่ของ สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของนายภานุวัฒ น์ซึ่งมือพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการลักลอบจะนำยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไปส่งยังพื้นที่ตอนใน จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมมาตลอดกระทั่งทราบว่า นายภานุวัฒน์ มาอยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดลำพูนและยังมีประจำเดินทางไปยังแนวชายแดนจังหวัดเชียงราย เป็นประจำจนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2562เจ้าหน้าที่ชุดจับกลุ่มได้รับแจ้งจากสายลับว่านายภานุวัฒน์ได้ออกจากบ้านพักที่จังหวัดลำพูนเพื่อไปขนลำเลียงยาเสพติดมาส่งให้กับเครือข่ายโดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้าสีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน ผพ 3787 เชียงใหม่
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผน และวางกำลังตามจุดสำคัญจนกระทั่งเข้ามายังพื้นที่จังหวัดลำพูนจึงได้เรียกทำการตรวจค้นเครื่องกระทั่งพบยาเสพติดเป็นยาไอซ์ น้ำหนักรวม 105.9 กิโลกรัม บรรจุเป็นห่อด้วยพอชาเขียวอยู่ในกระเป๋าสะพายหลังจำนวน 6 ใบซุกซ่อนอยู่ ด้านหลังเบาะคนขับ จึงได้ควบคุมตัวส่ง สภ.นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดลำพูนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตามในขณะที่เจ้าหน้าที่ร่วมกันแถลงข่าวโดยมีเจ้าหน้าที่ของ ปปส.ภาค5 มาร่วมด้วยได้ใช้ชุดอุปกรณ์ในการตรวจยาเสพติดตรวจสารเสพติดจาก ห่อของยาเสพติดซึ่งมีรูปแบบการห่อด้วยถุงฟลอด์เป็นฉลากใบชา 2 แบบ คือ ห่อที่มี แพคเกจ สีเขียวล้ว นและอีกชนิดเป็นห่อที่มีแถบสีทอง จากการตรวจสารเสพติดพบว่าห่อที่เป็นแถบสีเขียวจะตรวจพบเฉพาะเป็นเมตแอมเฟตามีนหรือเป็นยาไอซ์เท่านั้น แต่แพคเกจ ที่มีฉลากสีทองกลับพบว่ามีการผสมกันทั้งสองชนิดคือเป็นเมตแอมเฟตามีนหรือยา ไอซ์และยังตรวจพบว่ามีเคตามีนหรือยาเคผสมอยู่ด้วย
ทางด้าน พลตำรวจตรี ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่าถือเป็นครั้งแรกที่พบจากการตรวจขณะที่กำลังแถลงข่าวพร้อมกับสื่อมวลชนในวันนี้ จึงได้ขอให้ทาง ปปส.ภาค 5 นำตัวยาชุดดังกล่าวไปตรวจแยกสารประกอบดูละเอียดอีกครั้งซึ่งอาจจะพบไปถึงพฤติกรรมในการผลิตไปจนถึงการเสพที่เปลี่ยนไปโดยมีการผสมยาเสพติดสองชนิดซึ่งอยู่ในกลุ่มของ คลับดัก หรือยาเสพติดที่ใช้ในสถานบันเทิงเข้ามาอยู่ในตัวยาเสพติดเดียวกันเพื่อตรวจสอบดูว่าตัวยาเสพติดที่พบถือเป็นตัวยาเสพติดชนิดใหม่ หรือไม่ ซึ่งจะสะท้อนทั้งเรื่องของการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การผลิตยาเสพติด ขนลักลอบขนลำเดียงไปจนถึง
ทั้งนี้ ปปส.เผยว่า จากพฤติกรรมการเสพจากข้อมูลที่พบคือจะมีการเสพยาไอซ์ก่อน และเสพยาเคต่อ ยาไอซ์การเสพจะต้องใช้อุปกรณ์ พฤติกรรมการเสพที่อาจจะเปลี่ยนไป เนื่องจากพฤติกรรมการเสพจากข้อมูลที่พบคือจะมีการเสพยาไอซ์ก่อน และเสพยาเคต่อ ผ่านความร้อนเพื่อเสพ แต่ยาเคจะใช้วิธีการบดเป็นผง และสูดดมทางจมูก จึงต้องวิเคราะก์กันเป็นกรณีพิเศษในเหตุผลของการผสมยาเสพติดทั้ง 2 ชนิดนี้เข้าด้วยกัน