รักษาการเจ้าอาวาสวัดปันเสาเผยตั้งกรรมการสอบเรื่องพระฉาวลงนะหน้าทองให้สาวแล้ว เจ้าตัวยอมรับทำจริงในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่เป็นโยมเพื่อนสาวที่เดินทางมาหาที่วัดขอให้ตนเองทำให้แต่นำมาโพสต์เล่นจนเกิดเรื่อง ขณะที่ความผิดตอนนี้ไม่ถึงปราชิก แต่มีการคาดโทษทำทัณฑ์บนไว้ ส่วนสำนักพุทธ ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว 
ความคืบหน้ากรณีที่พระวัดปันเสา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ต้องเกิดเรื่องฉาวอีกครั้งหลังมีหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นลูกศิษย์ มาทำพิธีลงนะหน้าทอง แล้วโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งวันแห่งนี้ก็เพิ่มเกิดเรื่อฉาวกรณีที่เจ้าอาวาสวัดหลายวัดรวมตัวกันฉันท์หมูกระทะ และดื่มเบียร์กัน แต่ก็มาเกิดเรื่องฉาวนี้ขึ้นอีก
ความคืบหน้าล่าสุดทางพระมหาสง่า ธีรสังวโร เจ้าอาวาสวัดผาลาด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดปันเสา ได้เปิดเผยว่า ในเรื่องดังกล่าวหลังจากที่ตกเป็นข่าวก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบแล้วและได้พูดคุยกับพระรูปดังกล่าวที่เป็นต้นเรื่องแล้ว ยอมรับว่าเป็นตนเอง และได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งพระรูปนี้บวชที่กรุงเทพเมื่อปีที่ผ่านมายังไม่ครบ 2 ปี แต่ช่วงต้นปีที่แล้วได้ ขอมาจำพรรษาอยู่ที่วัดปันเสาแห่งนี้ โดยมีพระที่เป็นเพื่อนกันชักชวนมาอยู่ด้วย
หลังจากนั้นเมื่อต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ได้มีโยมเพื่อนสาว ที่เดินทางมาจากกรุงเทพ เดินทางมาหาตรงกับวันเกิดของโยมเพื่อนด้วย เพื่อนทราบมาว่า ตั้งแต่ก่อนที่จะบวชพระรูปนี้ได้เคยไปศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์ความรู้เรื่องเครื่องรางขอขลังและการทำพิธีเกี่ยวกับเมตตามหานิยมตามความเชื่อ จึงได้ขอให้พระเพื่อน ได้ช่วยทำให้ซึ่งพระรูปนี้เองก็ตั้งใจทำให้เล่นๆ และที่ทำไม่ได้ทำนะหน้าทอง แต่ทำเป็นลักษณะของติดทองให้มากกว่า โดยเฉพาะภาพที่ติดทองทั่วหน้าตามปกติแล้วก็ไม่เคยพบเรื่องการลงนะหน้าทองทั้งหน้าแบบนี้ แล้วถ่ายรูปกันจนกระทั่งโยมเพื่อนสาว ได้นำภาพมาโพสต์ลงโลกออนไลน์จนกลายเป็นเรื่อง ยืนยันว่าไม่ได้ทำเรื่องนี้เป็นกิจวัตรหรือตั้งตัวเป็นเกจิทำเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งทางคณะกรรมการเองก็รับฟังคำชี้แจง และได้ตำหนิติเตือนและทำการคาดโทษทำทัณฑ์บนไว้ก่อน เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยความเป็นเพื่อน และด้วยพรรษาที่บวชไม่นานจึงอาจจะยังไม่เคร่งเรื่องของพระธรรมวินัยมากนัก ช่วงนี้ก็ยังให้จำพรรษาที่วัดปันเสาต่อไปจนถึงช่วงออกพรรษา
ประกอบกับช่วงนี้อยู่ในช่วงจำพรรษาของพระ จึงได้ให้จำวัดนี้จนกว่าจะหมดช่วงเข้าพรรษา ค่อยว่ากันใหม่เรื่องการที่จะดำเนินการต่อไปอย่างไร อีกทั้งเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความผิดวินัยสงฆ์ถึงขั้นปราชิก ก็อยู่ที่การพิจารณาตนเองเป็นสำคัญด้วย
ขณะเดียวกันทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้วเช่นกันโดยแจ้งว่าขอเวลาทำการสอบสวนก่อน
