พลอย ชิดจันทร์ ดาราสาว เจ้าของล้งใหญ่รับซื้อลำไยในภาคเหนือ เผยสถานการณ์ราคาลำไยน่าจะดีขึ้น หลังจากจีนเปิดตลาดรับซื้อต่ออีกครั้ง ยอมรับปีนี้ได้รับผลกระทบหนักหลายด้านทั้งเรื่องโควิด แรงงาน คุณภาพลำไย ตลาดจีนที่เคร่งระเบียบและเลือกคุณภาพผลผลิตมากขึ้น ทำให้ราคาตกต่ำสุดในรอบหลายปี ส่วนล้งของตนเองยืนยันรับซื้อแพงกว่าที่อื่นเพื่อช่วยเกษตรกรต่อไปอีกรับปีนี้กำไรน้อยแต่ขอช่วยเกษตรกร ขณะเดียวกันรอมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ เข้าสู่ปลายฤดูแล้วทำให้ผลผลิตทะลักไม่เกินปลายเดือนน่าจะดีขึ้นตามลำดับ
หลังจากสถานการณ์ราคาลำไยในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูนพื้นที่ปลูกลำไยแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้รับผลกระทบเรื่องของราคา เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางประเทศจีนปิดตลาดไม่รับซื้อลำไยของไทยเนื่องจากตรวจพบเรื่องของคุณภาพ จากการพบเพลี้ยแป้งที่ลำไยจึงได้ทบทวนการรับซื้อ อีกครั้งทางการจีนเข้มงวดเรื่องของการขนส่งสินค้า และคุณภาพของลำไย มากกว่าแต่ก่อน ทำให้การส่งออกลำไยมาสะดุดในช่วงของปลายฤดูที่ลำไยกำลังออกมามากจนส่งผลต่อการรับซื้อลำไยของล้งทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ไม่สามารถรับซื้อในราคาสูงได้บางพื้นที่ลำไยเกรด AAA จาก 18 บาทลดลงมาเหลือเพียง 14-12 บาท ส่วนลำไยร่วง เหลือเพียง 2-4 บาท ต่อกิโลกรัม
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ดังกล่าวยังพบว่ามีล้งลำไยของบริษัทไทยโทน ซึ่งเป็นของ พลอย ชิดจันทร์ และสามี ยังเปิดรับซื้อในราคาที่สูงกว่าเจ้าอื่น โดยับซื้อที่กิโกรัมละ 18 บาท สูงกว่าเจ้าอื่นอยู่กิโลกรัมละ 2 บาท จนทำให้เกิดภาพในรถของเกษตรกรขนลำไยไปเข้าคิวขายให้ล้งของ พลอย ชิดจันทร์คิวยาวเป็นกิโล
พลอย เผยว่าสถานการณ์ของตลาดลำไยในวันนี้เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังทางประเทศจีนเริ่มเปิดตลอดผ่อนปรนให้สามารถนำเข้าลำไยได้แล้วทำให้ตอนนี้ลำไยตระกร้าขาว หรือลำไยสดสามารถนำเข้าประเทศจีนได้แล้วทำให้เริ่มมีการขนส่งลำไยออกนอกประเทศไทยแล้วเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ทางล้งของพลอยเองก็ประกาศรับซื้อในราคาที่สูงกว่าล้งทั่วไปถึงกิโลกรัมละ 2 บาท เพื่อที่จะช่วยเหลือเกษตรกร แม้ว่าช่วงแรกจะประกาศรับซื้อได้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม ทำให้เกษตรกรหลายคนเริ่มได้รับความเดือดร้อน ทำให้ล้งของพลอยเองแม้จะมีปัญหาเรื่องของแรงงานที่ต้องการที่จะกลับบ้านด้วยสถานการณ์โควิดที่พบว่า ในพื้นที่โดยรอบโรงงานของพลอยเองที่ลำพูนก็มีการติดโควิดทำให้แรงงานส่วนใหญ่ที่มาจากทางภาคอีสานเริ่มหวาดกลัวต้องการจะกลับบ้าน แต่ก็ได้ขอให้อยู่ต่อช่วยกันอีกนิดจึงได้เปิดรับซื้อต่อไปอีก
ทั้งนี้นับว่าตั้งแต่พลอยเคยทำลำไยมา เป็นกว่า 10 ปีก็ถือว่าปีนี้สถานการณ์ราคาลำไยตกต่ำลงมามากที่สุด ทั้งนี้ก็มีแอบดราม่าทางโลกออนไลน์นิดๆ ว่าตนเองรับซื้อราคาสูงกว่าที่อื่นต้องการสร้างภาพ แต่ในส่วนตัวยืนยันว่าตนเองเปิดรับซื้อมาตลอดเพื่อหวังช่วยเหลือเกษตรกร รับว่าปีนี้อาจจะมีกำไรน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องลุ้นวันต่อวันเรื่องของราคาในประเทศจีน และตลาดจึงอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจเห็นใจ ว่าราคาลำไยปีนี้ได้รับผลกระทบหนัก ไม่เฉพาะสถานการณ์โควิดที่เป็นปัจจัยหลักแล้ว ความเข้มงวดในการนำของของทางประเทศจีนเองก็มีปัญหา เทรนการบริโภคลำไยคุณภาพของจีนก็มีเพิ่มขึ้น อย่างแต่ก่อนก็จะเลือกใหญ่สด แต่เดียวนี้คนจีนเลือกบริโภคลำไยสดที่ไม่แต่จัดจนออกหัว(ลำไยที่แก่จัดจนเริ่มแทงรากออกที่เมล็ด) ซึ่งแม้จะเนื้อเยอะแต่ลำไยแก่จัดจะมีความหวานหอมน้อยกว่า จึงเลือกที่จะคัดให้ราคาเฉพาะที่สุกพอดีเท่านั้น ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาตกต่ำลงด้วย
ทั้งนี้ถือว่าตอนนี้เข้าสู่ช่วงปลายฤดูลำไย เหลืออีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็เริ่มจะหมดลงประกอบกับทางจีนก็เปิดรับซื้อแล้วก็อาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนทางราชการเองก็ถือว่าทำงานกันอย่างหนักเช่นกันอาจจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือในช่วงปลายฤดูนี้ ซึ่งทางผู้ประกอบการเอง เกษตรกรเองก็ยังรอความชัดเจนอยู่เช่นกัน
