
พลังโซเชี่ยล นำพาธารน้ำใจหลังไหลมาช่วยเหลือครอบครัวที่มีแม่ลูกป่วยมะเร็งสองคน แต่สู้ชีวิต ตั้งโต๊ะริมทางขายข้าวไข่เจียว “สองแม่ลูกสู้มะเร็ง” คนแชร์เรื่องราวเพื่อช่วยกันมาอุดหนุนจนกลายเป็นเรื่องประทับใจพลิกชีวิตของครอบครัวให้สู้ต่อ วันนี้ลูกสาวคนเล็กวัย 7 ขวบอาสามาช่วยคุณแม่คุณพ่อขายข้าวไข่เจียวอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยแม้คนจะรอคิวเป็นร้อย
หลังจากเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมาผู้ใช้เฟสบุคชื่อ “ณฤชล มีวัฒนะกุล” ได้โพสต์เรื่องรางของคุณแม่คนหนึ่งที่นั่งขายข้าวไข่เจียวกลางดึกริมถนน แต่ไม่ค่อยมีลูกค้า เลยแวะอุดหนุน และสอบถามจนทราบเรื่องราวที่สะเทือนใจว่าตนเองเป็นแม่ป่วยเป็นมะเร็งเมื่อ 4 ปีก่อน ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเอาลิ้นบางส่วนออกจนทำให้มีปัญหาทางด้านการพูด และหลังจากที่เริ่มป่วยได้ 1 ปีก็มาพบว่าลูกชายก็ป่วยเป็นมะเร็งอีกคน จนต้องหาเงินมารักษา และดูแลครอบครัวทุกวิถีทาง รวมทั้งช่วง 4 ทุ่มถึงเช้ามืดก็จะมานั่งขายข้าวไข่เจียวเพื่อช่วยหาเงินแม้ร่างกายตัวเองจะไม่เต็มร้อยจากการรักษาโรคมะเร็ง พร้อมกับโพสต์ข้อความว่า ” เห็นน้องมานั่งขายข้าวไข่เจียว ขี่ผ่าน เลยลองย้อนแวะมาดู มาขายวันเเรก ขายคนเดียว แยกเซ็นเฟส ก่อนถึงอีซูซุธารามานิดหน่อย (พูดไม่ชัดตัดลิ้นเพราะมะเร็ง มีลูก2 ลูกก็เป็นมะเร็ง) ชอบตรงสู้ชีวิตนี่แหละครับ ใช้มอไซค์ขนของเอง ผมเลยนั่งกินข้าวข้างฟุตบาทคุยกับน้อง เลยให้น้องเป็นกำลังใจ 100 บาท เงินไม่เยอะแต่ก็ช่วยช่วยกันไป น้องบอกจะขายถึงเช้า ไม่รู้จะไหวป่าว สรุปขาย4ทุ่ม-ตี2″
และหลังจากโพสต์ไม่กี่ชั่วโมงมีการแชร์ต่อกันไปในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วจนเกิดพลังโซเซี่ยล ที่นำพาธารน้ำใจหลั่งไหลมาช่วยเหลือครอบครัวน้องจนในคืนวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมาพบว่ามีผู้คนที่ทราบข่าวหลั่งไหลมาอุดหนุนข้าวไข่เจียวกันนับร้อยคนจนเจ้าตัว และครอบครัวยังรู้สึกตกใจ ข้าวที่หุงไป 5 หม้อมหมดลงในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง
เรื่องราวของครอบครัวนี้กลายเป็นเรื่องที่สร้างความประทับใจ ให้กับโลกโซเชี่ยล และชาวเชียงใหม่เพียงข้ามวัน โดยเฉพาะกำลังใจที่มีกับครอบครัวนี้ ซึ่งมี นายวราวุธ เทพจันทร์ หรือ แนทสามีอายุ 45 ปี และนางสาวผ่องศรี พรมจันทร์ หรือ ไอซ์ ภรรยาวัย 37ปี ปัจจุบันมีลูกสองคน น้องพู ลูกชายคนโตวัย 11 ขวบ และน้องพลอยใส ลูกสาวคนเล็กวัย 7 ขวบ ก่อนหน้านี้ครอบครัวมีอาชีพเปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ อยู่ในห้างดัง แต่เมื่อ 4 ปีก่อนมาพบว่า ภรรยาป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปาก และอาการลุกลามจนต้องทำการรักษา และต้องตัดลิ้นส่วนหนึ่งออกไปจนทำให้หลายเป็นผู้พิการทางการพูด และต้องพักรักษาตัวต่อเนื่องหลายปี ประกอบกับเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาช่วงวิกฤติโควิดทำให้ต้องปิดร้านครอบครัวสูญเสียรายได้ จนแนทหัวหน้าครอบครัวก็ต้องรับภาระหนักที่สุดดิ้นรนหางานทำจนต้องประกอบอาชีพไรเดอร์ส่งสินค้า และอาหาร พร้อมกับเปิดร้านอาหารเล็กๆที่บ้านขายพวกข้าวผัด พะโล้ ข้าวไข่เจียวเพื่อหารายได้ในช่วงกลางวัน แต่ช่วง 3 ปี ก่อนก็มาพบว่าลูกชายป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเช่นกันอยู่ในระยะที่ต้องควบคุมดูแลใกล้ชิดปัจจุบันต้องได้รับการรตักษาต่อเนื่อง โชคดีที่ใช้สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท และได้พระมหากรุณาธิคุณรับเป็นคนไว้ในพระบรมราชาณุเคราะห์
ส่วนไอซ์ ผู้เป็นแม่ก็ต้องรับการรักษาไปพร้อมกันจนปัจจุบันอาการเริ่มดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดีขึ้นแต่เรี่ยวแรง และปัญหาเรื่องการพูดรวมทั้งการกินอาหารที่มีปัญหาจากการผ่าตัดรักษาปัจจุบันต้องกินอาหารที่เป็นของเหลวเท่านั้นจำพวกนม และอาหารเสริมแต่ก็พอช่วยเหลือครอบครัวขายอาหารที่บ้านในอำเภอสันทราย พร้อมกับดูแลลูกชายคนโตที่ตอนนี้ต้องหยุดเรียนเพื่อทำการรักษาโรคมะเร็ง แต่ทางโรงเรียนยังช่วยเปิดโอกาสให้เรียนออนไลน์ ไปก่อนตอนนี้ต้องใช้ยาจากต่างประเทศที่มีราคาค่อนข้างสูงซึ่งทางสถาบันมะเร็งช่วยเหลืออยู่ทำให้อาการดีขึ้นตามลำดับ
หลังจากที่ขายอาหารที่บ้านในช่วงกลางวันแล้ว ไอซ์ ก็ขอช่วยแนทเพื่อหารายได้เพิ่มด้วยการออกมาขายข้าวไข่เจียว ริมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณแยกศาลเด็ก ขาเข้าเมือง ตั้งแต่ช่วงเวลา 4 ทุ่มไปจนถึงช่วงเช้ามืดของทุกวันบางวันก็ขายได้ไม่มาก บางวันก็ต้องเจอฝนตกช่วงนี้เพราะที่ตั้งขายเป็นริมถนนไม่มีร่มหรือหลังคา บางวันก็จะพาลูกทั้ง 2 คนออกมาด้วย แต่บางวันก็จะให้เข้านอนก่อนแล้วแค่อยออกมาช่วยกันขายสองคนผัวเมีย จนกระทั่งมีลูกค้าคนหนึ่งมาอุดหนุนและแชร์เรื่องราวนี้ออกไปจนกลายเป็นที่มาของธารน้ำใจหลั่งไหลมาช่วยเหลือทั้งออกมาช่วยกันอุดหนุนข้าวไข่เจียว บริจาคข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมัน รวมทั้งเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้ตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา
และในคืนที่ผ่านมา( 1 กันยายน) ก่อนเวลาเปิดร้าน 4 ทุ่มพบว่ามีชาวเชียงใหม่ และคนที่ทราบข่าวเดินทางมาจากต่างจังหวัดต่างก็มารอร้าน ข้าวไข่เจียว “สองแม่ลูกสู้มะเร็ง” เปิด รวมทั้งกลุ่มไรเดอร์เซเว่น หลายสิบคนนัดรวมตัวกันมารอเพื่อที่จะช่วยอุดหนุนในคืนนี้ ทันทีที่ครอบครัวของแนท ไอซ์ และลูกทั้งสองคมมาถึงพบว่าหลายคนมาช่วยกันขนของ โต๊ะเก้าอี้ เตาแก๊ส กระทะ มาตั้ง เพื่อให้ครอบครัวนี้ได้เปิดร้านขาย และคนมารอคิวกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำขายกันเองไม่ทัน
แม้แต่น้องพลอยใสลูกสาววัย 7 ขวบ ก็ออกมาช่วยแม่ขาย โดยเป็นคนเตรียมกล่องข้าว ตักข้าวใส่กล่องไว้รอใส่ไข่เจียว บางช่วงก็ลงมาช่วยเตรียมไข่เจียวให้พ่อทอด ยิ่งสร้างความประทับใจให้กับคนที่มาช่วยอุดหนุนบางคนจึงกับจุกอกเมื่อเห็นภาพหนูน้อยมาช่วยแม่ขายของอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย จนหลายคนที่ตั้งใจมาเป็นลูกค้าก็มาช่วยขาย บ้างตักข้าวเตรียมของ บ้างช่วยตีไข่ทอดไข่ หลายครอบครัวก็นำข้าวของอย่างข้างสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช รวมทั้งเงินช่วยเหลือมามอบให้กับครอบครัวนี้ด้วย
โดยผู้ที่มาช่วยเหลือครอบครัวนี้บางท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาทำธุระที่เชียงใหม่ ทราบข่าวผ่านทางโลกโซเชี่ยลก็เลยแวะมาอุดหนุนและให้กำลังใจ บางกลุ่มที่อยู่เชียงใหม่ก็มีการรวมรวบเงินมามอบให้น้องเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ทั้งเรื่องของทุนการศึกษา และค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วย และยังพบว่าหลายคนก็กำลังหาช่องทางช่วยเหลือทั้งเรื่องอาชีพ และช่วยเหลือภาระของครอบครัวหลายๆอย่างให้เบาบางลง
ทางด้าน นายวราวุธ เทพจันทร์ หรือ แนทสามี เปิดใจว่ารู้สึกตื้นตันและดีใจอย่างบอกไม่ถูกไม่เชื่อว่าพลังโซเชี่ยลจะมากมายขนาดนี้ เพียงไม่กี่วันก็มีคนรู้จักมากมาย และมาช่วยเหลือครอบครัวของตนเองจนทำอะไรไม่ค่อยจะถูกแล้ว ในบางช่วง ที่สำคัญตือได้กำลังใจมหาศาลที่จะสู้ต่อไปเพื่อครอบครัวจะดูแลครอบครัวจนถึงนาทีสุดท้ายของลมหายใจทุกคน
เช่นเดียวกันน้องไอซ์ภรรยา ก็ฝากขอบคุณทุกกำลังใจ และความช่วยเหลือที่มีมาให้ครอบครัวมีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไปถึงที่สุด
ทั้งนี้ทางครอบครัวก็ยังน้อมรับน้ำใจที่จะช่วยเหลือครอบครัวที่ต้องดูแล ซึ่งยังมีภาระที่อยู่ข้างหน้าอีกมากทั้งการรักษาพยาบาลทั้งสองคนที่ป่วย และค่าเลี้ยงดูและเล่าเรียนของลูก สามารถส่งความช่วยเหลือมาได้ที่ บัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขา ศูนย์การค้ากาดสวนแก้ว เลขบัญชี 455-0-30336-0 ชื่อบัญชี น.ส.ผ่องศรี พรมจันทร์ เบอร์โทร 087-788-5535 หรือสามารถอุดหนุนร้านอาหารที่ขายช่วงกลางวัน และส่งผ่านไรเดอร์ หรือมาอุดหนุนร้านไข่เจียว ช่วงกลางคืน แต่ก็อาจจะไม่ได้มาขายทุกวันเพราะบางวันภรรยาก็จะป่วยและไม่ค่อยมีแรงทำงานได้มากเหมือนปกติทั่วไปแล้ว