หลายฝ่ายจวกยับมาตรการห้ามปล่อยโคมลอยในพื้นที่ 5 อำเภอรอบท่าอากาศยานเชียงใหม่ แต่คืนที่ผ่านมาในตัวเมืองเชียงใหม่กลับพบนักท่องเที่ยวและชาวบ้านปล่อยโคมลอยกันเต็มท้องฟ้า โชคดีกระแสลมพัดปทางตะวันออกทำให้โคมลอยตกลงไปในเขตท่าอากาศยานเชียงใหม่ 2 วันเพียง 21 ลูก
แม้ว่าทางจังหวัดได้อกมาตรการห้ามปล่อยโคมลอย ทั้ง 5 อำเภอคือเขตอำเภอมืองครบทุกตำบล อำเภอแม่ริม อำเภอหางดวง อำเภอสารภี และอำเภอสันทรายบางตำบล ส่วนอำเภออื่นต้องขออนุญาตก่อนเป็นเวลา 15 วัน แต่ปรากฏว่าในคืนที่ผ่านมา ทัพนักท่องเที่ยว ต่างพากันเลือกซื้อโคมลอยที่แม่ค้าพ่อค้าเอามาวางขายริมทางอย่างโจ่งแจ้ง ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วนำมาจุดปล่อยกันเต็มท้องฟ้า ในช่วง 2 ฝั่งแม่น้ำปิง รวมทั้งที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เองซึ่งตั้งอยู่เชิงสะพานนวรัฐ แม้ว่าจะห้ามปล่อยเด็ดขาดในตัวเมืองเชียงใหม่ก็ตาม แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้แต่มองไม่สามารถควบคุมได้เลย จึงพบว่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมามีการปล่อยโคมลอยนับแสนขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือตัวเมืองเชียงใหม่
ทำให้หลายองค์กร หลายหน่วยงานหรือแม้แต่ชาวเชียงใหม่เองต่างก็ตำหนิมาตรการในการรณรงค์ ควบคุม และห้ามปล่อยโคมลอยของทางภาครัฐ และการให้ความร่วมมือ รวมทั้งมาตรการในการคุมเข้มทั้งการจำหน่าย และการปล่อยโคมลอยในจุดท่องเที่ยวที่มองว่าไม่ได้ผล ซึ่งทางจังหวัดและองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวต้องหาแนวทางในการแก้ไขให้ได้
อย่างไรก็ตามในช่วงงานประเพณียี่เป็งของชาวเชียงใหม่ซึ่งจัดขึ้นในช่วงวันที่ 9-12 พฤศจิกายน ซึ่งตอนนี้ผ่านไปแล้ว 3 คืน โชคดีที่มีกกระแสลมพัดจากด้านทิตะวันตกไปทางทิศตะวันออก ทำให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมืองโชคดีไปด้วย โคมลอยถูกกระแสลมพัดผ่านไปทางด้านตะวันตกจึงทำให้มีซากโคมลอยตกในเขตอากาศยานขึ้นลงน้อยกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ จากข้อมูลล่าสุด 2 วันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเชียงใหม่เก็บซากโคมลอยได้ 21 ลูก ด้วยกัน ซึ่งทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ก็ได้เพิ่มมาตรการในการดูแลเพิ่มรอบเจ้าหน้าที่ในการตรวจตรา และเก็บกู้ซากโคมลอยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดกับการขึ้นลงของอากาศยานไว้อยู่แล้ว