
พายุฤดูร้อนพักกระหน่ำในพื้นที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นล้มทับรถยนต์ และบ้านเรือน ประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง คนงานตัดต้นไม้รอดตายปาฏิหารย์
เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มกระจายในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ โดยในพื้นที่อำเภอสารภี แรงพายุได้พัดต้นแหนขนาดใหญ่อายุนับร้อยปี ล้มทับบ้านพักเลขที่ 84 หมู่ที่ 5 บ้านยวม ตำบลไชยสถาน ของ ร้อยตำรวจโทประทัศน์ ทนันไชย ได้รับความเสียหาย พร้อมรถยนต์ 3 คันและรถจักรยานยนต์ 1 คัน และบ้านพักเลขที่ 25 ของนายสมคิด ชื่นสูน กำแพงบ้านได้รับความเสียหาย รวมถึงกำแพงวัดบ้านยวม นอกจากนี้แรงพายุยังได้พัดต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นทับสายไฟฟ้าและบ้านเรือนประชาชนอีกหลายหลังในพื้นที่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลไชยสถาน ได้รับความเสียหาย ในเบื้องต้นทางฝ่ายปกครองอำเภอสารภี ได้เข้าช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสารภี เข้าดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยและจะเข้าดำเนินการสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือฟื้นฟูอีกครั้งในวันนี้
นางเสลียง ชื่นศูนย์ ผู้เสียหายเล่านาทีที่ต้นไม้หักโค่นว่าขณะนั้นตนเองทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน แต่ตอนเกิดพายุกระหน่ำได้ยินเสียงไม้หักดังสนั่นจึงวิ่งออกมาดูก็ปรากฏว่าไม้ใหญ่ที่หักโค่นลงมาทับถและบ้านเรอนเสียหาย ขณะเกิดเหตุตนเองได้ว่าจ้างคนงานมาตัดต้นขนุนที่บ้านใกล้กับต้นแหนยักษ์ แต่ยังตัดไม่เสร็จเห็นพายุมาก็บอกให้คนงานค่อยมาทำต่อพรุ่งนี้ขณะที่คนงานกำลังขึ้นรถจะกลับบ้านต้นไม้ดังกล่าวก็หักโค่นลงมาทับรถแต่โชคดีที่คนในรถปลอดภัยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
รตท.ประทัศน์ ทนันไชย เจ้าของบ้านอีกหลังที่เสียหาย เล่าว่าในช่วงเกิกเหตุ ภรรยาและลูกสาวของตนเองอยู่ในบ้าน ส่วนตัวเองอยู่ด้านหลังบ้าน รู้สึกตกใจที่ได้ยินเสียงดัง ก่อนที่จะพบว่าต้นไม้ใหญ่ได้หักโค่นใส่ตัวบ้าน และรถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ เสียหายอย่างหนัก
ทางด้านนายแดง ตาชมพู ซึ่งเป็นคนรับจ้างมาตัดต้นไม้เล่านาทีชีวิตที่รอดตายว่า ตนเองมารับจ้างตัดต้นไม้กับเพื่อน โดยมาช่วยเป็นผู้ช่วยอยู่ด้านล่างและเป็นคนขับรถกำลังเก็บเศษต้นไม้ที่ตัดขึ้นหลังรถพอช่วงพายุมาก็กำลังขับรถเพื่อที่จะหลบให้ห่างจากต้นไม้ ขณะนั้นเองต้นไม้ใหญ่ก็ล้มใส่ตัวรถอย่างจัง รวมทั้งหลังคารถก็ยุบลงมาแต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหลังจากนั้นก็รีบเปิดรถวิ่งออกมาด้วยความตกใจ รู้สึกปาฏิหารย์ที่ตนเองรอดชีวิตมาได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้ จากการที่ตนเองแขวนพระครูบาแก้ววัดศรีบุญเรือง และครูบากองแก้ววัดต้นยางหลวง