ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาพิงคนครเปิดเส้นทาง“เส้นทางเดินเที่ยวด้วยตนเองในเมืองเชียงใหม่” (Self-guided walking tour of Chiang Mai city) เพื่อพัฒนาและเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวในรูปแบบของแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ เพื่อส่งเสริมกระตุ้นการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ตามเส้นทางในตัวเมืองเชียงใหม่d24abe9305882d862bfad0faea99e431.jpgที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ กลางเมืองเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ในการเปิดกิจกรรม“เส้นทางเดินเที่ยวด้วยตนเองในเมืองเชียงใหม่”(Self-guided walking tour of Chiang Mai city) โดย มี นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร เข้าร่วมด้วย10b77d75fdb2d761de2d11c9723ace75.jpgนายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวว่า กิจกรรม “เส้นทางเดินเที่ยวด้วยตนเองในเมืองเชียงใหม่” (Self-guided walking tour of Chiang Mai city) เป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาและเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว ในรูปแบบของแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ตามเส้นทางในตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวร่วมสมัย ร้านค้า ร้านอาหารที่น่าสนใจในพื้นที่ใกล้เคียง และเป็นการสร้างทางเลือกด้านการท่องเที่ยวที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ สำนักงานพัฒนาพิงคนครจึงจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวด้วยการเดินเท้า หรือปั่นจักรยาน ด้วยตนเองสู่แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ จำนวน 5 เส้นทางa9f7646852ae20c185655b06c513483d.jpg คือ เส้นทางศึกษาวังหลวงกษัตริย์ล้านนา (ข่วงหลวงเวียงแก้ว), เส้นทางวิถีชุมชน สล่าเมือง, เส้นทางสถาปัตยกรรมล้านนา, เส้นทางศึกษาประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ และเส้นทางศึกษากำแพงเมืองเก่าเชียงใหม่ (4 แจ่ง 5 ประตู) ซึ่งในแต่ละเส้นทางก็ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒินำบรรยายถึงสถานที่ต่างๆ ที่มีความสำคัญในแต่ละเส้นทาง และผู้เข้าร่วมจะได้ทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับลักษณะของเส้นทาง เช่น กิจกรรมตัดตุง, กิจกรรมทำสวยดอก และกิจกรรมทำดอกไม้ไหว เป็นต้นced0f001c1f9ca0140cd67da1d827518.jpgสำหรับบรรยากาศในกิจกรรม “เส้นทางเดินเที่ยวด้วยตนเองในเมืองเชียงใหม่” (Self-guided walking tour of Chiang Mai city) มีผู้สนใจเข้าร่วมเดินท่องเที่ยวใน 5 เส้นทาง กว่า 100 คน ซึ่งได้สัมผัสกับแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร ในตลอดเส้นทางเดินทั้ง 5 เส้นทางdb39b06db8e822fb3352554c1d8c4529.jpgทั้งนี้กิจกรรมที่จัดขึ้นคาดว่าจะเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มีความสนใจในการท่องเที่ยวด้วยตนเองทั้งในรูปแบบของการเดินและการปั่นจักรยาน โดยสามารถค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวใน 5 เส้นทางนี้ได้จากเว็บไซท์ www.thainorthtour.com หรือติดต่อขอรับหนังสือเส้นทางจักรยานสู่แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ในเชียงใหม่ ได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร 053-920000 หรือFacebook:สำนักงานพัฒนาพิงคนคร หรือดาวน์โหลดได้ที่ www.pinkanakorn.or.th01e5e1675a93233098dcb3fcc36ec1b9.jpgนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่าเมืองเชียงใหม่ได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวจนติด อันดับโลก ประกอบกับในปัจจุบัน กลุ่มนักท่องเที่ยวมีรูปแบบการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป โดยส่วน หนึ่งนิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง เพื่อเป็นการได้สัมผัสและซึมซับเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์ของแหล่งท่องเที่ยวได้อยา่งเต็มที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้มักชื่นชอบการเดินเท้าหรือ ปั่นจักรยานท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ตั้งในอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน เพื่อเรียนรู้ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ อยู่ในกระแสนิยมอย่างกว้างขวางและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น01854354dc67b5d12edbbda254b108e4.jpgตัวเมืองเชียงใหม่ จัดได้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวสาคัญทางประวัติศาสตร์ ที่มีชื่อเสียง อีกทั้ง ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัยอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน เหมาะสาหรับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยการเดินเท้า หรือปั่นจักรยานเป็นอย่างดี สามารถพัฒนา และจัดทาเป็นเส้นทางเดินเที่ยวด้วยตนเองในเมืองเชียงใหม่ และส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภายใต้ กระแสของการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับใช้จุดแข็งทางด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและทรงคุณค่า ผสมผสานกับรูปแบบ การใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน เป็นจุดขายและองค์ประกอบสาคัญ ในการพัฒนาการท่องเที่ยว ของจังหวัดเชียงใหม่ ให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติต่อไปได้