เชียงใหม่-ตัวแทนภาคประชาชนเชียงใหม่ยื่นศูนย์ดำรงธรรมร้องผู้ว่าฯ แก้ปัญหากรณีแยกรินคำอย่างมีวิสัยทัศน์ เห็นด้วยทวงคืนพื้นที่ทางหลวงจากห้างดัง แต่ชี้ขยายถนนไม่ช่วยแก้วิกฤติจราจรแถมก่อปัญหาเพิ่ม จี้ระงับการก่อสร้างไว้ก่อนและดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากที่วานนี้ (4ก.ค.62) เฟซบุ๊ค “บัณรส บัวคลี่” โพสต์จดหมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง ขอให้เร่งตัดสินใจแก้ปัญหาที่แยกรินคำ ภายใต้วิสัยทัศน์เมืองทันสมัยยั่งยืนและเป็นสากล โดยมีข้อเสนอให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ-ดีไซน์-สถาปนิกเมืองและภูมิทัศน์มาร่วมออกแบบ ให้สอดคล้องกับกรอบและทิศทางการพัฒนาย่านเมืองทั้งย่าน ไม่ใช่การทำเฉพาะส่วนที่เน้นวิศวกรรมจราจรเพียงมิติเดียว โลกยุคใหม่กำลังแข่งกันสร้างเมืองที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีมีสุขภาวะ เน้นเมืองที่มีพื้นที่โล่ง มีสีเขียว เดินสะดวก มีสาธารณูปการทันสมัย และออกแบบดีไซน์ย่านเมืองสวยงามให้สอดคล้องกันทั้งย่าน สะท้อนและบ่งบอกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเมือง
ขณะเดียวกันมีข้อเรียกร้อง ได้แก่ 1.ให้เปิดเผยข้อมูลที่มาที่ไปของการที่แขวงการทางฯ อนุญาตให้เอกชนใช้พื้นที่ของเขตทางหลวงบริเวณที่เป็นลานโล่งหน้าห้างเมญ่าปัจจุบัน และให้ประกาศต่อสาธารณะอย่างชัดเจนว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวมีสถานะเป็นที่สาธารณะใช้ร่วมกันของประชาชน 2. การพัฒนาใดๆ ของแขวงการทางฯ ต้องสอดคล้องกับการพัฒนาย่านเมือง ตามโครงการสมาร์ทนิมมานและการพัฒนาย่านเมืองที่เกี่ยวเนื่องในอนาคต อาทิเช่น มาตรฐานทางเท้า มาตรฐานพื้นที่สีเขียว กรอบแนวคิด เดินดี-เที่ยวดี-น่าอยู่ ไม่ให้มิติของการขยายพื้นผิวถนนเพื่อรถวิ่งเป็นมิติหลัก 3. ขอให้มีผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมือง เช่น สถาปนิกด้านภูมิทัศน์ สถาปนิกด้านพัฒนาและออกแบบเมือง ผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้และภูมิทัศน์ เข้าร่วมออกแบบการปรับปรุงพัฒนาใดๆ ของพื้นที่โล่งดังกล่าว
- จะต้องไม่มีกรณีสร้างไปก่อนเพื่อใช้งบประมาณให้ทัน แต่ผลงานไม่ได้มาตรฐาน เช่นทางเท้าแบบเดิมทั่วไป การออกแบบที่ไม่คำนึงถึงการสัญจรและปริมาณผู้คนผ่านบริเวณสี่แยก ฯลฯ จนต้องมีการแก้ไขและใช้งบประมาณของรัฐก้อนใหม่ลงมาอีก กรณีทางเท้าที่เพิ่งสร้างไปด้านตรงกันข้ามห้างเมญ่า ที่กลายเป็นลานจอดรถ ไม่มีสีเขียว ไม่มีความร่มรื่น ไม่เอื้อให้ผู้สัญจรและนักท่องเที่ยวเดินต่อไปเพื่อขยายย่านท่องเที่ยว และอาจต้องใช้งบประมาณก้อนใหม่มาแก้ไข เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ โดยเปิดให้ผู้เห็นด้วยร่วมกันลงชื่อสนับสนุน ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ร่วมลงชื่อจำนวนมาก
วันนี้(5 ก.ค.62) ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ นายบัณรส บัวคลี่ ในฐานะตัวแทนภาคคนฮักเชียงใหม่ พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุนเข้ายื่นหนังสือ เรื่อง ขอให้ระงับการขยายทางหลวงหมายเลข 11 บริเวณสี่แยกรินคำ และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายเสียก่อน ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก จังหวัดเชียงใหม่ โดยหนังสือระบุว่า สืบเนื่องจากขณะนี้แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 กำลังดำเนินการโครงการปรับปรุงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (ซุปเปอร์ไฮเวย์) เริ่มตั้งแต่การขยายผิวทางจราจรจากอุโมงค์ทางลอดข่วงสิงห์ ปิดทางแยกหน้าโพธารามมหาวิหาร (เจ็ดยอด) จากข่าวผ่านสื่อมวลชนทราบว่า แขวงทางหลวงฯ ได้มีหนังสือขอให้ห้างเมญ่าทุบทิ้งพื้นที่ลานหน้าห้างและให้ส่งคืนภายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เพื่อจะขยายช่องทางจราจรเป็นทางเลี้ยวเพิ่มเติมจากถนนห้วยแก้ว ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมชาวเมืองทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวาง จนอาจจะเป็นความขัดแย้งใหญ่เพราะการก่อสร้างมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตผู้คนจำนวนมาก
ทั้งนี้ชาวเชียงใหม่มีประสบการณ์ในอดีตว่าการออกแบบโครงการของกรมทางหลวง ที่ไม่สอบถามความเห็น ตรวจสอบความเหมาะสมให้รอบคอบได้ก่อให้เกิดปัญหาระยะยาว เช่นการออกแบบถนนมหิดลให้รถวิ่งเร็วและยังมีแท่งปูนเกาะกลางกั้นระหว่างเลนไปกลับ เมื่อเกิดฝนตกแท่งปูนตรงกลางถนนกั้นขวางการระบายน้ำ จนต้องทุบทิ้งเสียงบประมาณแผ่นดิน ถนนที่ออกแบบให้วิ่งเร็วก่อให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งต้องติดป้ายเตือนตลอดเส้นเพิ่มเติม สะพานยกระดับที่แยกแอร์พอร์ตพลาซ่าเคยถูกประชาชนคัดค้านให้ออกแบบแนวใหม่ที่ระบายรถออกจากเมืองเข้าถนนสายหางดงโดยตรงแต่กรมทางหลวงยืนยันการก่อสร้าง จนก่อให้เกิดปัญหามากมายที่แยกดังกล่าวจนทุกวันนี้
ขณะที่เวลานี้มีแนวโน้มว่าการออกแบบก่อสร้างและขยายถนนหมายเลข 11 (ซุเปอร์ไฮเวย์) บริเวณจากสี่แยกรินคำไปจนถึงสี่แยกข่วงสิงห์ จะก่อให้เกิดปัญหาผลกระทบ ต่อการสัญจรของเมือง เพราะพื้นบริเวณดังกล่าวเป็นเขตเมืองชั้นในศูนย์กลางเศรษฐกิจ การออกแบบใดๆ ต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมนี้เป็นสำคัญ ทั้งการดำเนินการที่ผ่านมา ประชาชนไม่เคยรับทราบรายละเอียดของแบบก่อสร้าง แม้เคยมีการเจรจากับประชาชนแต่ต่อมาไม่เป็นไปตามนั้น การออกแบบมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย การจะขยายผิวจราจรยังไม่มีการศึกษาว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ หรือมีผลกระทบในทางลบมากกว่า
ดังนั้นจึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และประธานอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้โครงการของราชการก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจการค้าของย่านธุรกิจสำคัญโดยรวม ให้ดำเนินการดังนี้ 1.ขอให้ตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการของโครงการนี้ ว่าถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ อยู่ในแผนแม่บทและแผนประจำปีด้านจราจรและขนส่งของจังหวัดหรือไม่ มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเกินแม่บทหรือไม่
2.ขอให้ตรวจสอบการดำเนินการของแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ซึ่งไม่สอดคล้องและไม่เป็นไปตาม พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และ ฉบับที่2 (พ.ศ.2562) มาตรา 6 การดำเนินการของรัฐต้องก่อประโยชน์สุข มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจ, มาตรา 8 ก่อนเริ่มดำเนินการส่วนราชการต้องจัดให้มีการวิเคราะห์ผลดีและผลเสียให้ครบถ้วนทุกด้าน กำหนดขั้นตอนการดำเนินงานที่โปร่งใส ภารกิจใดที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนราชการต้องดำเนินการรับฟังความเห็นของประชาชน
3.โครงการนี้อ้างว่าการขยายผิวการจราจรที่หัวมุมแยกจะแก้ปัญหาระบายรถได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมศาสตร์ มช. (ชูโชค อายุพงศ์) ระบุว่าไม่มีผลต่อการแก้ปัญหาที่บริเวณนั้นทั้งยังจะก่อให้เกิดความสับสนตามมา เนื่องจากรถที่ยูเทิร์นจากด้านซุปเปอร์ไฮเวย์ตรงสี่แยกเพื่อจะเลี้ยวเข้าห้างเมญ่า หรือ รถที่เลี้ยวมาจากถนนห้วยแก้วด้านทิศตะวันออก จะตัดไขว้ กับแนวของรถที่ขยายผิวการจราจร ไม่เพียงเท่านั้น การออกแบบแนวถนนที่ปรับไปมาหลายรอบ ยังตัดไขว้กันก่อนถึงทางแยกบริเวณหน้าวัดโพธาราม (เจ็ดยอด) ขอให้ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะอนุกรรมการจัดการจราจรทางบกฯ ตรวจสอบผลกระทบตามอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการจัดการจราจรทางบก (คำสั่งคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก 3/5553-77/2553) และตาม พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
4.ขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมที่มีตัวแทนจากภาคธุรกิจเอกชน ผู้ประกอบการค้าย่านนิมมานเหมินทร์ ประชาชนย่านเจ็ดยอด นักวิชาการด้านการจราจร ศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบทั้งด้านบวกและลบของโครงการขยายผิวจราจรที่แยกรินคำต่อเศรษฐกิจสังคมชุมชนและอื่นๆ ไม่เฉพาะด้านการจราจร ตามเงื่อนไขและขั้นตอนที่กำหนดใน พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และ ฉบับที่2 (พ.ศ.2562) มาตรา 6 และ มาตรา 8
5.ขอให้ระงับการดำเนินการใดๆ ของการก่อสร้างไว้ก่อน จนกว่าการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย รักษาความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณรัฐ และคุ้มครองผลกระทบต่อประชาชน ให้ปฏิบัติครบถ้วนเสียก่อน และ 6.ให้แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เปิดเผยแบบแปลนก่อสร้างการขยายผิวการจราจร วัสดุที่ใช้ และเอกสารวิเคราะห์ความคุ้มค่าต่อสาธารณะทันที