คุณยายวรรณา หญิงชราป่วยเรื้อรังหลายโรค ร้องให้ดีใจขอบคุณทั้งน้ำตาน้ำใจจากชาวไทย รวบรวมเงินไถ่ถอนที่ดิน จากการประสานของสำงานยุติธรรมจังหวัดขอความช่วยเหลือ หลังศาลชี้ขาดให้เพื่อนลูกชายคืนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จากการประพฤติเนรคุณ หลอกลวงเอาที่คุณยายเอาที่ดินไปเป็นของตนเองก่อนเอาไปจำนอง แล้วไล่เจ้าของออกจากบ้าน ล่าสุดนำเงินไปไถ่ถอนและโอนกรรมสิทธิ์เป็นของคุณยายวรรณาแล้ว
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายธวัช พันมา ยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานความช่วยเหลือผ่านทางสื่อมวลชน(รายการข่าวสามมิติ ไทยทีวีสีช่อง 3 ) จากกรณีที่นางสาววันนาทองจอยอายุ 66 ปีหรือคุณยายวรณนา ที่ถูกนายเมตตรัย หินแปง ซึ่งเพื่อนของบุตรชายของคุณยายวรรณา ซึ่งได้เสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อนได้เข้ามาทำทีเข้ามาอาศัยร่วมอยู่กับคุณยายในที่บ้านที่ตำบลดอนแก้ว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ 
โดยอ้างว่าจะดูแลคุณยายต่อจากลูกชายที่เสียชีวิตไปแต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปด้วยการหลอกลวงให้คุณยายไปโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนดังกล่าวซึ่งเป็นของคุณยายวรรณนา เองไปเป็นชื่อของตนก่อนที่จะมีการนำไปจำนองกับบริษัทสินเชื่อสองครั้งเป็นจำนวนเงินรวม 140,000 บาท และภายหลังยังมีการไล่คุณยายวรรณาให้ไปอยู่กับพี่สาวในเพิงพักติดกับที่ดินด้านหลังและล้อมรั้วไม่ให้เข้าออก
หลังจากนั้นทางชาวบ้านเกิดความสงสารจึงได้ประสานงานไปยังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ให้เข้ามาช่วยเหลือคุณยายวรรณนา จนกระทั่งมีการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอคืนกรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนดังกล่าวให้กับคุณยายวรรณนา จนกระทั่งล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาให้นายเมตตรัย หินแปง เพื่อนของลูกชายให้โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินเปล่าคืนให้กับคุณยายวรรณนาโดยระบุเหตุเรียกถอนคืนสิทธิ์ให้เพราะผู้รับประพฤติเนรคุณตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
แต่ทั้งนี้ติดปัญหาที่ว่าที่ดินผืนดังกล่าวถูกนำไปจำนองในราคา 140,000 บาทจึงได้มีการประสานความช่วยเหลือผ่านมายังรายการข่าวสามมิติ และได้แจ้งผ่านไปยังผู้ชมรายการจนกระทั่งมีผู้ที่สนใจให้ความช่วยเหลือโอนเงินไปยังบัญชีกองทุนช่วยเหลือคุณยายวรรณนา จนกระทั่งถึงวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้มียอดเงินฝากทั้งสิ้น 214,528 บาททางยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งช่วยดูแลบัญชีดังกล่าวก็ได้แจ้งปิดบัญชีรับบริจาคเนื่องจากเห็นว่าจำนวนเงินดังกล่าวเพียงพอสำหรับในการไถ่ถอนรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ
และในช่วงบ่ายของวันนี้วันที่ 22 พฤษภาคม 2562 ณสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยกำนันตำบลดอนแก้ว อำเภอสารภีได้นำคุณยายวรณนา ใปเบิกเงินและนำไปไถ่ถอนที่ดินผืนดังกล่าวและได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินกลับมาเป็นของคุณยายวันนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเพื่อเป็นการป้องกันถูกหลอกลวงอีกจึงได้โอนเปลี่ยนชื่ออีกครั้งให้คุณยายวรรณา และพี่สาว ที่อยู่ดูแลกันสองพี่น้องมีชื่อร่วมกันในกรรมสิทธิ์
โดยทันทีที่คุณยายได้โฉนดที่ดินพร้อมทั้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนดังกล่าวกลับมาเป็นของคุณยายแล้วก็ได้กล่าวเปิดใจพร้อมทั้งน้ำตาว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือทั้งเจ้าหน้าที่จากยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะน้ำใจจากพี่น้องประชาชนที่ได้มอบเงินมาให้คุณยายได้นำไปไถ่ถอนที่ดินและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งเงินในบัญชีที่เหลือจากการโอนและค่าใช้จ่ายต่างๆเหลืออีกประมาณ 30,000 บาทเศษทางยุติธรรมจังหวัดก็ได้ส่งมอบให้กับคุณยายไปพร้อมกับโฉนดที่ดินโดยมีกำนันตำบลดอนแก้วมาเป็นสักขีพยานและรับปากว่าจะช่วยมาสอดสองดูแลและช่วยเหลือคุณยายต่อไป
ทางด้านยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่กล่าวขอบคุณน้ำใจชาวไทย ที่ทำให้คุณยายได้รับความช่วยเหลือจนได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินคืนนี้ ส่วนต่อจากนี้นั้นแม้กรรมสิทธิ์จะเป็นของคุณยายแล้ว แต่คู่กรณียังไม่มีการย้ายออกตามคำส่งศาล จึงได้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อไปช่วยพูดจา ซึ่งคู่กรณีก็ได้ขอเวลาอีก 2-3 วัน จะย้ายออก ก็ต้องรออีกครั้งโดยหลังจากที่โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้ว 
ทีมข่าวก็ได้ไปส่งคุณยายวรรณ และพี่สาวที่บ้าน ซึ่งพบว่าบ้านที่อยู่ในที่ดินที่เกิดปัญหายังถูกล็อคประตูไว้ ไม่มีคนอยู่ ส่วนเพิงพักที่คุณยายอาศัยอยู่กับพี่สาว ที่มีสภาพคับแคบ และไม่ค่อยถูกสุขอนามัยมากนัก ซึ่งทางกำนันตำบลดอนแก้วก็รับปากว่าจะช่วยดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลที่คุณยายเองทำบายพาสหัวใจมาต้อไปโรงพยาบาลทุกๆ 2 สัปดาห์ ก็จะช่วยจัดหารถไปรับส่ง ส่วนเรื่องคู่กรณีก็จะมาช่วยดูแลเจรจาให้คุณยายและพี่สาวได้กลับเข้าไปอยู่อาศัยในบ้านของตนเองได้ ซึ่งจะทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม
