
รวบแล้ว! 2 ผู้ต้องหาแก๊งเงินกู้นอกระบบ บุกทวงหนี้สุดป่าเถื่อนในพื้นที่อำเภอสันทราย พบ 1 ใน 2 เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ยอมรับก่อเหตุจริง เนื่องจากลูกหนี้ไม่ยอมชำระเงินรายวันคืน 5 วัน แถมหนีหน้าหาย แต่ไม่รู้ว่าบ้านเกิดเหตุไม่ใช่ของลูกหนี้ อ้างปล่อยกู้ด้วยตัวเองโดยไม่มีนายทุนอยู่เบื้องหลัง เบื้องต้นโดนหลายข้อหา ทั้งทวงหนี้ผิดกฎหมาย,บุกรุก,ลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค.65 แก๊งเงินกู้นอกระบบ ในพื้นที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ก่อเหตุทวงหนี้ในลักษณะที่ผิดกฎหมาย ด้วยการปีนรั้วบุกรุกเข้าไปในบ้านพักหลังหนึ่งในตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ที่ล็อคประตูรั้วไว้และนำทรัพย์สินออกไป พร้อมทั้งใช้กาวหยอดรูกุญแจ และเขียนข้อความข่มขู่คุกคาม โดยมาทราบในภายหลัยด้วยว่าบ้านที่ก่อเหตุนั้น ไม่ได้เป็นบ้านของลูกหนี้แต่อย่างใด ซึ่งทำให้เจ้าของบ้านที่เป็นผู้เสียหายรู้สึกหวาดกลัวอย่างหนักและร้องขอความเป็นธรรม โดยเบื้องต้นได้นำหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้วที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย เพื่อให้สืบสวนสอบสวนและติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุดวันนี้(25 ก.ค.65) ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นายสุรชัย ใจธรรม อายุ 32 ปี ชาวอำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ และนายวุฒิภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี ชาวอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อมอบตัวแล้ว ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรสันทราย ทำการสืบสวนจนทราบว่าทั้ง 2 คน เป็นผู้ก่อเหตุ โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากล่าว ร่วมกันทวงถามหนี้โดยการข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น,ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปบุกรุกเคหสถาน,ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปลักทรัพย์ในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุม และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยนายสุรชัย บอกว่า ลูกหนี้ชื่อ “ป้าอ้วน” ซึ่งเปิดร้านเป็นแผงขายของอยู่ในพื้นที่ตำบลสันทรายน้อย ได้กู้ยืมเงินไปจำนวน 10,000 บาท และตกลงจะผ่อนชำระคืนเป็นรายวัน แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ได้รับเงินกู้ยืมไปแล้วกลับไม่ผ่อนชำระเลยแม้แต่วันเดียวติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน จึงไปติดตามทวงถามที่ร้านและพบว่าร้านไป จึงไปเดินทางไปที่บ้านเกิดเหตุ เนื่องจาก “ป้าอ้วน” นำไปชี้จุดอ้างว่าเป็นบ้านของตัวเอง และเห็นว่าที่อยู่ตรงกับสำเนาทะเบียนบ้านที่ให้ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเมื่อไปถึงไปพบตัว จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น จนมาทราบภายหลังว่าบ้านหลังดังกล่าวไม่ใช่ของ “ป้าอ้วน” ซึ่งอยากบอกว่าไม่ตั้งใจและขอโทษเจ้าของบ้านที่เป็นผู้เสียหายด้วย พร้อมระบุว่าเงินที่นำมาปล่อยกู้นั้น เป็นของตัวเอง ไม่ได้มีนายทุนอยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมนำตัวส่งศาลเพื่อขอให้พิจารณาควบคุมตัว โดยในส่วนของนายสุรชัย ได้นำตัวส่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนนายวุฒิภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี นำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากยังเป็นเยาวชน