
รอง ผบ.ตร.นำแถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวไต้หวันพร้อมพวกคนไทย รวม 4 คน ยึดของกลางเคตามีน 50 กิโลกรัม ซุกโกดังติดถนนวงแหวนรอบสองเชียงใหม่ เตรียมอำพรางซ่อนในตู้ลำโพงส่งออกไปไต้หวัน
วันนี้(3 พ.ค.62) ที่โกดังเก็บสินค้า ย่านถนนวงแหวนรอบสอง ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ์ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้แทนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด,กองทัพภาคที่ 3,ตำรวจภูธรภาค 5,สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญ ผู้ต้องหา 4 คน ได้แก่ นายภูสิงห์ ภูมิรุ่งวิกรัย อายุ 34 ปี ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่,นายYang chih kal อายุ 34 ปี ชาวไต้หวัน,นายKao wei chih อายุ 32 ปี ชาวไต้หวัน และนางสาวศิริพร ศิริไพรวงศ์ อายุ 28 ปี ชาวอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมของกลางเคตามีน ชนิดผงสีขาว ประมาณ 50 กิโลกรัม,ตู้ลำโพง,รถยนต์ 3 คัน,โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง และกระเป๋าเสื้อผ้าขนาดใหญ่ 1 ใบ
โดยการจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามแผนบูรณาการความร่วมมือในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือตามนโยบายรัฐบาลโดยมีกองทัพภาคที่ 3, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด,กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค5 และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมุ่งเน้นเครือข่ายรายสำคัญ,เครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติและบุคคลที่หลบหนีหมายจับตามคดียาเสพติด อีกทั้งให้เน้นการขยายผลยึดทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวันร่วมกับคนไทยลักลอบส่งยาเสพติดโดยถูกซ่อนในเครื่องสำอางหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าไปประเทศไต้หวันผ่านบริษัทขนส่งสินค้าจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ,ทหาร,ป.ป.ส.,หน่วยงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่, หน่วยงานสืบสวนพิเศษไต้หวันและหน่วยงานในพื้นที่วางแผนสืบสวนติดตามจับกุม
กระทั่งวันที่ 1 พ.ค.62 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีความเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โดยมีการพบปะกันหลายครั้งและแยกย้ายกัน จึงได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์จนกระทั่งในช่วงเย็นพบว่านางสาวศิริพร ขับรถยนต์เก๋ง เข้าไปที่โกดังสินค้าอาคาร A ถนนวงแหวนรอบกลาง ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และได้มีการยกกระเป๋าลักษณะมีน้ำหนักลงจากรถแล้วนำเข้าไปเก็บไว้ในโกดัง โดยมีนายภูสิงห์ คอยคุมเชิงอยู่ด้านนอก ต่อมามีชายชาวไต้หวัน 2 คน เข้ามาที่โกดังผู้หนึ่งออกไปจึงเชื่อว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าเก็บไว้ในโกดัง
จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ซุ่มพรางแฝงตัวอยู่ในพื้นที่เพื่อคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลาและต่อมาในวันที่ 2 พ.ค.62 จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจค้นโกดังสินค้าดังกล่าวพบวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 หรือ เคตามีน ชนิดผงสีขาว จำนวนประมาณ 50 กิโลกรัม อยู่ภายในโกดัง สอบถามผู้ต้องหาชาวไต้หวันทั้งสองผ่านล่ามแปลรับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของพวกตัวเองและจะทำการแบ่งบรรจุซ่อนอยู่ในตู้ลำโพงแล้วนำส่งออกทางบริษัทรับส่งสินค้าไปประเทศไต้หวันจึงได้ทำการจับกุมตัว
ขณะที่ชุดสืบสวนอีก 2 ชุด ได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมนายภูสิงห์ ซึ่งเป็นผู้ติดต่อซื้อยาเสพติดในครั้งนี้บริเวณด้านหลังสำนักงานควบคุมความประพฤติจังหวัดเชียงใหม่ ในศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ และจับกุมนางสาวศิริพร ที่เป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดมาเก็บไว้ที่โกดังบริเวณที่ทำการไปรษณีย์แม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป