
คืบหน้าคลิปเก๋งพุ่งชนป้องตำรวจจราจรจนทะลุฝั่ง พังเสียหาย ตำรวจจราจร และแขวงการทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและเร่งเก็บกู้ซากป้อมตำรวจออกจากผิวจราจร ส่วนคนขับเป็นหนุ่มวัย 31 ปี ส่งตัวไปรพ.ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก เบื้องต้นถูกดำเนินคดีขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย รอผลการตรวจวัดระดับแองฮอฮอล หากพบอาจจะแจ้งข้อหาเพิ่มเมาแล้วขับด้วย
สำหรับความคืบหน้าจากกรณีที่ กลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ ตี 1 ของเช้าวันนี้ เหตุเกิดบริเวณ 3 แยกกอกกำลังผาเมือง ตัดกับถนนโชตนาขาออกเมือง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นภาพรถเก๋งสีขาว ขับมาจากทางด้านกองกำลังผาเมืองพุ่งตรงมายังสามแยกไฟแดง โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดความเร็วลง คาดว่าพุ่งมาด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และพอถึงช่วงทางแยก ซึ่งมีป้อมตำรวจจราจรตั้งอยู่บนเกาะกลางถนน ตรงนั้นเป็นป้อมควบ คุมสัญญารไฟจราจร และป้องยามเข้าเวรของตำรวจจราจรด้วย รถคันดังกล่าวพุ่งขึ้นไปบนเกาะกลางและพุ่งชนป้องตำรวจจราจรอย่างแรงจนรถทะลุป้อมออกไปยังถนนโชตนา อย่างแรง จนป้อมตำรวจพังเสียหายยับเยินทั้งหลัง
ล่าสุดเช้านี้ บริเวณจุดเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกลุ่มงาจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แขวงการทาง ได้เข้าตรวจสอบความเสียหาย และเร่งเก็บกู้ซากข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆ และซากของป้อมตำรวจจราจรที่เสียหายบางส่วนลงไปกองอยู่กับพื้นผิวจราจร จากแรงประทะ ซึ่งสภาพป้อมจราจรแทบไม่เหลือซาก เป็นโพลงทะลุตรงกลางป้อมเหลือเพียงหลังคาและผนังทั้ง 2 ด้าน ส่วนข้างของภายในกระจัดกระจายเสียหายทั้งหมอด โดยเฉพาะตู้เย็นที่อยู่ในป้อม ถุกพุ่งชนกระเด็นอออกไปไกลข้ามฝั่งถนนไปกองอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนโชตนาฝั่งขาเข้าเมืองเลยทีเดียว ทางเจ้าหน้าที่ข้าตรวจสอบและตัดกระแสไฟก่อนที่จะถ่ายภาพเก็บหลักฐาน และทำการเก็บกู้รื้อถอนออกไป
ทางด้าน ร.ต.อ.ประยุพ วงค์รัตนมัจฉา รอง สารวัตร สอบสวน สภ.ช้างเผือก ร้อยเวรเจ้าของคดีเผยว่า ตอนนี้ทราบตัวคนขับแล้วชื่อนายนิคม ยศมูล อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 229/55 ม.1 ต.ช้างเปือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว เลขทะเบียน กน-7034 เชียงราย คันเกิดเหตุ ถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่ รพ.เนื่องจากมีอาการเจ็บหน้าอกจากแรงกระแทก พร้อมกันนี้ทางร้อยเวรเจ้าของคดีก็ได้ขอให้ทางโรงพยาบาลทำการตตรวจวัดระดับแอลกอฮอลในเลือดด้วย ซึ่งยังรอผลอยู่ในเช้านี้ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประวาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย แต่หากผลตรวจระดับแอลกอฮอล พบว่ามีปริมาณเกินที่กฏหมายกำหนดก็จะมีการแจ้งข้อหาเมาแล้วขับเพิ่มเติมอีก
อย่างไรก็ตามจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร แจ้งว่าป้อมตำรวจจราจรดังกล่าวเป็นป้อมชั่วคราวในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจร และควบคุมสัญญาณไฟจราจรในแยกดังกล่าว ปกติจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงาน และใช้เป็นจุดพักในช่วงปฏิบัติงาน ซึ่งจะเข้าไปพักผ่อนในช่วงที่มีการจราจรหนาแน่นตั้งแต่เช้ามืด ไปจนถึงช่วงค่ำประมาณ 20 นาฬิกา ก็จะปิดป้อม และไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอนเวรในจุดดังกล่าว ถือเป็นโชคดีที่เหตุเกิดไม่เกิดในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ และไม่มีใครอยู่ในจุดดังกล่าวจึงไม่มีความสูญเสียจากการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเกิดขึ้น