สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายพื้นที่ของภาคเหนือ 1,670 นาย เข้าไปดับไฟในพื้นที่ 3 ตำบลของอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หลังเกิดไฟไหม้ป่าลุกลามอย่างหนักต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3
เช้าวันนี้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมระบบเวียร์ (VIIRS) ว่าตรวจพบจุดความร้อนขึ้นในจังหวัดรวมทั้งสิ้น 343 จุด พบมากที่สุดที่อำเภอเชียงดาว 63 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 62 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 1 จุด ซึ่งในพื้นที่อำเภอเชียงดาวเกิดไฟไหม้ป่าลุกลามอย่างหนักติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 วันแล้ว 
สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระดมกำลังชุดเสือไฟ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดง อาสาสมัครดับไฟป่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดับไฟอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวัน และกลางคืน โดยเฉพาะที่ ตำบลเมืองนะ ตำบลทุ่งข้าวพวง และตำบลเมืองงาย ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่าซ้ำซากเป็นประจำทุกปี เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน หน้าผาสูง ยากต่อการเข้าถึง และมีเศษกิ่งไม้ ใบไม้แห้งทับถมกันจำนวนมาก ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงทำให้ติดไฟและลุกลามไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในบริเวณดังกล่าวไม่สามารถใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยบินโปรยน้ำ บรรเทาความรุนแรงของเชื้อไฟได้เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำ จึงต้องใช้กำลังภาคพื้นดินเดินเท้าข้ามเขาเขาดับไฟเท่านั้น 
สำหรับสถิติการเกิดจุดความร้อนของอำเภอเชียงดาวในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 28 มีนาคม มีจำนวน 299 จุด เกิดมากที่สุดคือเมื่อวานนี้ 92 จุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 1,670 นาย และสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากจังหวัดอื่นๆ อีก 45 นาย เข้ามาร่วมดับไฟในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อยู่ในขณะนี้ และส่วนใหญ่ต้องปักหลักอยู่ภายในป่า เนื่องจากการเดินทางเข้าพื้นที่ยากลำบาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงต้องการ น้ำและอาหารจำนวนมากเพื่อเป็นเสบียงในการเดินทาง
