
เชียงใหม่เข้าสู่ช่วงวิกฤติคุณภาพอากาศจากปัญหาไฟป่ และหมอกควัน ส่งผลให้เช้านี้ยังครองแช็มป์อันดับ 1 ของโลกหัวเมืองใหญ่ที่คุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แล้ว รับการเดินทางมาลงพื้นที่ของรองนายกประวิตร ติดตามสถานการณ์หมอกควัน และไฟป่าภาคเหนือที่เชียงใหม่โดยในช่วงเช้าวันนี้ พลเอกประวิตร วงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางมาติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควัน และไฟป่าของพื้นที่ภาคเหนือที่ค่ายกาวิละ มลฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ หลังพบว่าพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือเข้าสู่ช่วงคุณภาพอากาศที่วิกฤติหนักที่สุดในรอบปี
ล่าสุดพบว่า จากข้อมูลของ เวปไซด์ www.airvisual.com ซึ่งเป็นเวปไซด์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่าจากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า AQI จากหัวเมืองใหญ่จ ากประเทศต่างๆ ทั่วโลกพบว่าค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ยังพบว่าวิกฤติหนักที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แล้ว เมื่อในเวลา 11.00 นาฬิกาของบ้านเรา วัดได้ 279 AQI
ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าเช้านี้เมื่อเวลา 9 นาฬิกาค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM2.5 เกือบทุกจุดเพิ่มขึ้น เกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง วัดได้ 123 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดได้ 115 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่เหนือท้องฟ้าเมืองเชียงใหม่เช้านี้แม้จะล่วงเลยเข้าสู่ช่วงสายแต่พบว่าหมอกควันเหนือท้องฟ้าเมืองเชียงใหม่ยังขาวโพลนทำให้ทัศนะวิสัยลดลง แสงแดดสามารถสอดส่องลงมาถึงพื้นดินด้านล่างได้เพียงเล็กน้องเท่านั้น จากฝั่นควันที่สะสมในอากาศ ขณะที่ประชาชน และนักท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ ต้องหาวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่เริ่มส่งลกระทบกับร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดต่อกันเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีการการป่วย แสบตา แสบคอ แสบจมูก และล้มป่วยโรคทางเดินหายใจกันมากขึ้น