จังหวัดเชียงใหม่คุณภาพอากาศวิกฤติหนักต่อเนื่อง ค่า PM2.5 จากไฟป่า และหมอกควันพุ่งสูงทะลุ ค่ามาตรฐานขึ้นสีแดงทุกพื้นที่แล้ว ล่าสุดจังหวัดเชียงใหม่ งดบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนทุกแห่งแล้ว เพื่อลดปัญหาหมอกควันที่จะสะสมในอากาศ
สถานการณ์หมอกควัน และไฟป่าที่ส่งผลให้ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ หรืค่า PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ ถือว่าเข้าสู่ช่วงวิกฤติที่สุดของปีนี้แล้ว โดบเช้านี้เมื่อเวลา 9.00 น. พบว่าเกือบทุกสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของเชียงใหม่ เกินค่ามาตรฐานทะลุ 100 ไมโครกรับต่อลูกบาศก์เมตร หรืออยู่ในระดับสีแดงที่ส่งผกระทบกับประชาชนในพื้นที่ ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ศูนย์ราชการตำบลช้างเผือกวัดได้ 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 201 AQI ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 185 AQI ที่ ดอยสุเทพ วัดได้ 143 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 223 AQI ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ ค่า PM2.5 วัดได้ 110 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 220 AQI ขณะที่ ต.หางดง อ.ฮอด ซึ่งเป็นอำเภอตอนล่างเช้านี้สูงสุดของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ที่ 143 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 253 AQI
จากสถานการณ์วิกฤติเองหมอกควัน ทำให้ที่ห้องปฏิบัติการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่
ได้มีข้อสั่งการและขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันปฏิบัติ อาทิ ให้ศูนย์ปฏิบัติการฯ ทุกอำเภอ จัดชุดลาดตระเวนในการป้องกัน ป้องปราม และสร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการห้ามเผาอย่างต่อเนื่อง หากพบผู้กระทำความผิด ให้บังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ ในกรณีเกิดจุดความร้อน (Hotspot) ขึ้นในพื้นที่ ให้จัดชุดปฏิบัติการเข้าพื้นที่ เพื่อดำเนินการดับไฟอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดทำทะเบียนผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไฟป่า เพื่อติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 
โดยในส่วนของการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในระบบ Fire D ให้งดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวน สำหรับพื้นที่เกษตรและพื้นที่ทำกิน ให้อยู่ในอำนาจของนายอำเภอในการให้อนุญาต โดยพิจารณาจากสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมในการบริหารจัดการ ขณะเดียวกัน ได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฉีดพ่นน้ำและรดน้ำต้นไม้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ รวมถึงดำเนินการจัดหาหน้ากากอนามัย ชนิด N95 แจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดฯ ตั้งจุดตรวจวัดควันดำของยานพาหนะและดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และ ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ เร่งดำเนินการเปิดบริการห้องปลอดฝุ่น ทั้ง 236 แห่ง ทั่วจังหวัด พร้อมทั้งลงพื้นที่ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพของประชาชน
