
วิกฤติหมอกควันของเชียงใหม่ และภาคเหนือเริ่มคลี่คลายลงแล้วหลังพายุฝนมาพร้อมกับลมหนาวชะล้างฝุ่นพิษ PM2.5 ลงมาจากอากาศ บางส่วนถูกยกตัวลอยขึ้สู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้เช้านี้ทั้งเชียงใหม่ และภาคเหนือกลับมามีอากาศสดใสอยู่ในเกณฑ์สีฟ้า และเขียวเกือบทั้งหมด
ภาพมุมสูงของเมืองเชียงใหม่เช้านี้พบว่ามีเมฆฝนครึ้มดำปกคลุมเหนือท้องฟ้าเมืองเชียงใหม่ บางพื้นที่ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ซึ่งฝนมาพร้อมกับลมหนาว ส่วนสภาพอากาศที่ต้องเจอกับวิกฤคิหมอกควันจากไฟป่า และการเผาจนค่าฝุ่นพิษ PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานมานานกว่า 1 สัปดาห์เช้านี้คลี่คลายลงไปแล้ว อากาศสดใสสามารถมองเห็นดอยสุเทพได้อย่างชัดเจน ทัศนะวิสัยในการมองเห็นเพิ่มขึ้น และที่สำคัญค่ามลพิษในอากาของจังหวัดเชียงใหม่ กลับมาอยู่ในเกณฑ์ สีฟ้า และสีเขียว ซึ่งมีคุณภาพอากาศดี และดีมาก ซึ่งเป็นผลมาจากพายุฝนที่ตกลงมาในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อคืนนี้เกิดฝนตกเป็นบริเวณกว้างของจังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ และตกนานต่อเนื่องหลายชั่วโมงแม้จะไม่ใช่เกณฑ์ฝนตกหนัก แต่ก็ทำให้หมอกควันที่สะสมตัวในอากาศถูกชะล้างลงมา บางส่วนก็ถูกยกตัวขึ้สู่ชั้นบรรยากาศไป ทำให้เช้านี้เกือบทุกพื้นที่คุณภาพอากาศดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลล่าสุดของกรมควคุมมุลพิษ เมื่อเวลา 8.00 น. ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ศูนย์ราชการตำบลช้างเผือกวัดได้ 37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 50 AQI ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 34 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 43 AQI ที่ ดอยสุเทพ คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์สีฟ้า คุณภาพอากาศดีมาก วัดได้ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 25 AQI ส่วนพื้นที่ปัญหาไฟป่า ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ ค่า PM2.5 วัดได้ 33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 41 AQI ขณะที่ ต.หางดง อ.ฮอด ซึ่งเป็นอำเภอตอนล่างเช้านี้สูงสุดของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ที่ 36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 48 AQI
และเช้านี้จากข้อมูลของดาวเทียมจีสด้า ไม่มีรายงาน พบจุดความร้อน ในจังหวัดเชียงใหม่ ทางด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานว่ามวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงยังปกคลุมภาคเหนือ ส่งผลให้พื้นที่ภาคเหนือยังจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และพายุลูกเห็บได้อีก 1 วัน (17 กุมภาพันธ์) หลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 18 เป็นต้นไปฝนจะเริ่มเบาบางลง และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตราย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ เปลี่ยนแปลงในระยะนี้