Jkke3l.jpg
“เต้ มงคลกิตติ์” พาเด็กหญิงวัย 13 และพ่อ เข้าติดตามความคืบหน้าคดีที่เด็กหญิงวัย 13 ถูกหลอกไปจากโรงเรียนกินนอนแล้วพาไปข่ขืน พ่อเชื่อเป็นขบวนการล่อลวงไปค้าประเวณี ล่าสุดตำรวจภาค 5 ลงพื้นที่จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับคดีนี้ได้ 3 คน เมื่อช่วงเช้า ขณะเดียวกันขยายผลจากคดีนี้พบเด็กหญิงถูกล่อลวงไปข่มขืนอีกหลายคดี มีผู้ต้องหา 20 คนทั้งผู้ใหญ่ และเยาวชนติดต่อเข้ามอบตัวเพิ่มแล้ว
JkkJee.jpg
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ “เต้” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พาตัวเด็หญิงวัย 13 ปี บิดา พร้อมด้วยทนายความและทีมงานเดินทางเข้าพบกับ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และผู้กำกับการ สภ.กัลยานิวัฒนา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่เด็กหญิงอายุ 13 ปี เด็กนักเรียนกินนอนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถูกหญิงสาวเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่โทรศัพท์ชัดชวนให้ออกไปหาพร้อมกับเพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียนกินนอนเดียวกัน โดยมีผู้ชายขับรถมารับที่หน้าโรงเรียน ไปที่ร้านอาหารดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 4 กม. เมื่อไปถึงพบผู้ชาย 3 คน และผู้หญิง 2 คนกำลังนั่งดื่มกิน รับประทานอาหารกันอยู่
ระหว่างนั้นหญิงสาวเจ้าของร้านอาหารที่เป็นคนชวนลูกสาวตนออกจากหอพักโรงเรียน และผู้ชายกลุ่มดังกล่าวได้พยายามชักชวน เกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวตนดื่มเบียร์ จนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม น้องจิ๊บเริ่มมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ และหมดสติในที่สุด ก่อนถูกพาไปนอนที่ห้องนอนในบ้านที่อยู่ใกล้ร้านอาหาร และลูกสาวตนสะดุ้งตื่นตอนตี 2 เนื่องจากมีคนมานอนทับแต่ว่าอยู่ในอาการมึนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จนกระทั่งเช้ามาพบว่าตื่นขึ้นมาพร้อมกับมีผู้ชายที่เป็นคนขับรถไปรับนอนอยู่ข้างตัว Jkkmbk.jpg
หลังจากนั้นเช้าวันที่ 30 พฤศจิกายนทางพ่อของเด็งหญิงวัย 13 ได้โทรไปหาครูที่โรเงเรียนซึ่งครูได้แจ้งว่าลูกสาวตนไม่มาเรียน ตนเองพร้อมกับภรรยา จึงได้เดินทางกลับจากตัวเมืองเชียงใหม่มาตามหาลูกสาวจนทราบว่าออไปร้านอาหารกับเพื่อนรุ่นพี่ตั้งแต่กลางคืน จึงได้เดินทางไปรับตัว และสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนมั่นใจว่าลูกสาวถูกลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา จึงได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางครอบครัวเชื่อว่ามีขบวนการล่อลวงเด็กหญิงจากโรงเรียนไปค้าประเวณี
และล่าสุดหลังจากที่เป็นข่าว ทางบิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ก็ได้ลงพื้นที่ติดตาามคดีนี้ด้วยตนเอง หลังจากนั้นทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ก็ได้เร่งทำคดีและสืบสวน จนพบว่านอกจากคดีที่เกิดขึ้นกับเด็กวัย 13 ปีนี้แล้ว ยังคดีทางเพศที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน โรงเรียนเดียวกันอีกหลายคดีด้วยกัน ซึ่งต่างกรรมต่างวาระ แต่มีผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 20 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 7 คน และอีก 13 คนถูกออกหมายจับ Jkkyav.jpg
ซึ่งวันนี้ทาง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้นำผู้เสียหาย และพ่อ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดี เนื่องจากได้รับรายงานว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีเป็นผู้ใหญ่ และมีรายงานว่าเป็นนักการเมืองท้องถิ่นด้วย จึงได้มาช่วยดูแลคดีให้ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งตนเองไม่เกรงกลัวนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นหรือระดับบิ๊ก หากเป็นผู้กระทำผิดก็พร้อมจะชน และที่สำคัญอยากให้เร่งดำเนินคดีให้แล้วเสร็จโดยไว
หลังจากที่เข้าพบลกับทางฝั่งตำรวจภาค 5 แล้วก็ได้รับแจ้งว่า เช้าวันนี้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายได้ลงพื้นที่ปิดล้อม และนำหมายจับไปจับกุมผู้ต้องหาของคดีเด็กหญิงวัย 13 นี้ได้ผู้ต้องหาครบทั้ง 3 คนดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี แล้วimg src=”https://sv1.picz.in.th/images/2022/12/23/JkkI4E.jpg” alt=”JkkI4E.jpg” border=”0″>
ส่วนคดีที่สองที่ขยายผลผู้ต้องหา 20 รายหลังจากที่มีการเข้าปิดล้อมกดดันจากคดีแรก ก็มีผู้ต้องหาตามหมายจับในอีกคดีติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้อยู่ในช่วงของนัหมายเข้ามอบตัวอยู่ ทั้งนี้ได้ยืนยันกับทางครอบครัวว่าตำรวจได้เร่งดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา
ทางด้านพ่อผู้เด็กหญิวัย 13 ก็ได้ร้องขอให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมเนื่องจากทางครอบครัวเชื่อว่าเป็นการกระทำในลักษณะเป็นขบวนการที่ล่อลวงเด็กหญิงออกไป และอาจจะมีเรื่องของการค้าประเวณีเข้ามาเพิ่มเติมด้วย ยืนยันว่าเด็กในวัยเดียวกันอาจจะมีเรื่องความรักในทางที่ผิดเข้ามาเกี่ยว แต่ผู้ยต้องหาที่มีอายุ 35 ปีไม่น่าจะเป็นเรื่องของความรักจึงอยากให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจน และตรงไปตรงมาด้วย