สาวขับเก๋งย้อนศรอุโมงค์ทางลอดแยกรวมโชคเข้าพบ ตร.แล้ว ยืนยันไม่มีเจตนา แต่ทำไปเพราะตกใจ เนื่องจากรถเสียหลักและหมุนกะทันหัน พร้อมยอมรับผิดและขอโทษ โดยถูกปรับตาม พ.ร.บ.จราจรa3dc67ac99a0592c8af7c5738be8b2f5.jpgจากกรณีโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่รถยนต์เก๋งคันหนึ่งขับย้อนศรขึ้นมาจากอุโมงค์ลอดทางแยกรวมโชคมีชัย ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเย็นวันที่ 4 มิ.ย.62 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังปริมาณการจราจรค่อนข้างพลุกพล่านเนื่องจากเป็นช่วงเลิกงานและเลิกเรียน ทั้งนี้แม้ว่าจะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทำให้ผู้คนได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย และไม่มีทรัพย์สินเสียหาย b8ba96a5413da4ea6e93f450e7fc32e8.jpgอย่างไรก็ตามปรากฏว่าบรรดาผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์คลิปวิดีโอดังกล่าวอย่างกว้างขวางเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่างตำหนิรถเก๋งคันดังกล่าวที่ขับย้อนศรอย่างรุนแรง เนื่องจากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายไปด้วย56a3ff630e615576f2334b75710e050b.jpgขณะเดียวกันมีหลายรายแสดงความเห็นและสันนิษฐานเองว่ารถยนต์คันดังกล่าวน่าจะขับย้อนศรมาตั้งแต่อีกฝากหนึ่งของอุโมงค์ทางลอด อย่างไรก็ตามจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบข้อเท็จจริงว่า รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้ขับมาตามเส้นทางจากศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่มาทางแยกรวมโชคมีชัย ซึ่งในจังหวะที่รถกำลังจะลอดลงอุโมงค์และถนนเป็นทางโค้ง ปรากฏว่ารถได้เสียหลักและหมุนจนหน้ารถหันกลับไปทางศูนย์ราชการ จากนั้นจึงขับย้อนศรขึ้นไป โดยเจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถและคนขับ เพื่อเชิญตัวมาสอบถามด้วยcd2caf2239986a7a893143992eb42a2d.jpgวันนี้(6 มิ.ย.62) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวนฤมล (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งที่ขับย้อนศรขึ้นมาจากอุโมงค์ทางลอดแยกรวมโชคมีชัย ตามที่ปรากฎในโซเชียลมีเดีย ได้เดินทางเข้าพบพันตำรวจโทศุภชัย จันทรา รองผู้กำกับการกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และพันตำรวจโทมาโนช เอี่ยมสะอาด พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง ตามที่ได้รับการเชิญ เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นนางสาวนฤมล ยอมรับผิดและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น9739d4ba5c5d12393756456638ede3ee.jpgทั้งนี้นางสาวนฤมล บอกว่า ในช่วงเกิดเหตุกำลังขับรถมาตามเส้นทางดังกล่าวจนถึงบริเวณก่อนที่จะถึงทางลงอุโมงค์ทางลอด ซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง เกิดลังเลใจว่าจะลงอุโมงค์ทางลอดหรือว่าเบี่ยงออกไปตามเส้นทางด้านบน โดยสุดท้ายได้ตัดสินใจขับลงอุโมงค์ทางลอด แต่ปรากฏว่าจังหวะนั้นรถเกิดเสียหลักจนหมุน และหน้ารถหันกลับไปทางศูนย์ราชการ ซึ่งด้วยความตกใจและทำอะไรไม่ถูก จึงขับรถย้อนศรขึ้นไปตามภาพที่ปรากฏในคลิป แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีเจตนา 1ae1817630b8c6f1e7f9b20e84c4b5b9.jpgพร้อมทั้งขอยอมรับผิดและขอโทษด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเปรียบเทียบปรับเท่านั้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ฐานทำผิด พ.ร.บ.จราจร “ไม่ขับรถตามทิศทางที่กฎหมายกำหนด” ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน500บาท
ขณะที่พันตำรวจโทศุภชัย จันทรา รองผู้กำกับการกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้หญิง เชื่อว่าไม่น่าจะมีเจตนาที่จะขับรถย้อนศร แต่ทำไปเนื่องจากตกใจที่รถเกิดอุบัติเหตุเสียหลักและหมุนกลางถนน ซึ่งโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับอันตรายหรือทรัพย์สินเสียหาย f14d7a2db591523c8fcf754d41c8dd49.jpgอย่างไรก็ตามเนื่องจากการการขับขี่รถย้อนศรดังกล่าวนั้น มีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยทำการเปรียบเทียบปรับเท่านั้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์ พร้อมกันนี้แจ้งเตือนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ขับขี่อย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด หากเกิดกรณีเช่นเดียวกับผู้ขับขี่รายนี้ แนะนำว่าให้ตั้งสติและอย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายรถหรือขับย้อนศรเช่นนั้น เพราะอาจจะเป็นอันตรายและทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือจะดีกว่า.