
สถานการณ์หมอกควันเชียงใหม่ยังวิกฤติ เชียงใหม่ยังจมอยู่ใต้หมอกควันที่สะสมตัวนานเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ขณะที่ข้อมูลจากดาวเทียมจีสด้าพบว่าเช้านี้เชียงใหม่มีรายงานพบจุดฮอทสปอท หรือจุดความร้อนจากการเผา และไฟป่าพุ่งสูงขึ้นเป็ฯ 88 จุดทั่วพื้นที่
สถานการณ์หมอควัน และไฟป่าพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือยังวิกฤติหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่หัวเมืองหลักของภาคเหนือ 7เช้านี้ในตัวเมืองเชียงใหม่ยังจมอยู่ใต้หมอกควันสีขาวโพลนที่ยังสะสมตัวหนาแน่นขึ้น และอยู่ในช่วงวิกติคุณภาพอากาศนี้มานานเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรงกับร่างกาย รู้สึกได้ทันทีเมื่อออกมาอยู่นอกอาคาร จะมีอาการแสบตา แสบสมูก และแสบคอ ซึ่งทำให้หลายคนล้มป่วยลงด้วยโรคทางเดินหายใจ
โดยเช้านี้ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษเมื่อเวลา 9.00 น.พบว่า ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ศูนย์ราชการตำบลช้างเผือกวัดได้ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 208 AQI ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 88 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 195 AQI ที่ ดอยสุเทพ วัดได้ 99 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 209 AQI ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ ค่า PM2.5 วัดได้ 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 172 AQI ขณะที่ ต.หางดง อ.ฮอด ซึ่งเป็นอำเภอตอนล่างเช้านี้สูงสุดของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ที่ 141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 251 AQI
ขณะที่ เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก จัดอันดับให้เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีมลพิษอากาศสูงสุดอยู่ในอันดับที่ 6 ของโลก ส่วนอันดับ 1 เป็นของเมืองธากา ประเทศอิน บังคลาเทศ
ทั้งนี้ยังมีรายงานสถานการณ์การเกิดไฟป่าในหลายพื้นที่กระจายไปทุกอำเภอ เช้านี้ข้อมูลจากดาวเทียมจีสด้าพบว่าพบจุดฮอทสปอทจากความพร้อม และไฟป่า เพิ่มมากขึ้นจากวานนี้ในช่วงวลาเดียวกัน เกือบ 4 เท่าตัว จาก 26 จุดเช้านี้ขึ้นมาเป็น 88 จุด ที่อำเภออมก๋อย 16 จุด /อำเภอฮอด 11 จุด /อำเภอดอยเต่า 9 จุด/อำเภอแม่วาง 7 จุด/อำเภอเชียงดาว 7 จุด/อำเภอแม่ออน 7 จุด/อำเภอพร้าว 5 จุด/อำเภอแม่แตง 5 จุด/อำเภอจอมทอง 4 จุด/อำเภอสันทราย 3 จุด/อำเภอสันกำแพง 3 จุด/อำเภอกัลยาณิวัฒนา 3 จุด/อำเภอดอยสะเก็ด 2 จุด/อำเภอไชยปราการ 2 จุด/อำเภอเวียงแหง 1 จุด/อำเภอดอยหล่อ 1 จุด/อำเภอหางดง 1 จุด และอำเภอแม่แจ่ม 1 จุด
ซึ่งและพื้นที่ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านเข้าไปช่วยกันดับไฟป่ากันอย่างต่อเนื่อง แต่อุปสรรคสำคัญคือสภาพพื้นที่เนื่องจากบางพื้นที่เป็นหน้าผาสูงชันไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้เนื่องจากมีความอันตรายสูง จึงต้องปรับแผนทำแนวกันไฟโดยรอบพื้นที่ไม่ให้ไฟป่าลุกลาม อีกทั้งยังพบว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่ได้เกิดไฟป่ารุนแรงทำให้เชื้อเพลิงจากเศษซากใบไม้กิ่งไม้สะสมตัวหนาแน่นเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ทำให้ไฟป่าลุกลามได้อย่างรวดเร็ว