
ช่วงบ่ายวานนี้เชียงใหม่ฝุ่นควันเบาบางลงได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเช้านี้กลับมาอีกแล้ว และหนักกว่าเดิมหมอกควันถุกพัดเข้ามาสะสมในในพื้นที่จนหนาทึบช่วงเช้าท้องฟากลายเป็นสีขุ่นเหลืองปกคลุมตัวเมืองเชียงใหม่ ส่งผลให้เชียงใหม่ขึ้นอันดับ 1 ของโลกหัวเมืองมลพิษวิกฤติทางอากาศอีกรอบ
หลังจากเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้(28มีนาคม66) หลายพื้นที่รวมทั้งในเขตตัวเมืองเชียงใหม่มีกระแสลมแรงสพัดผ่าน ช่วยทำให้สถานการณ์หมอกควันของเชียงใหม่ ดีขึ้นบ้างแม้ว่าจะยังอยู่ในระดับวิกฤติแต่พบว่าหมอกควันถูกพัดพาออกไปนอกพื้นที่นานหลายชั่วโมงจนถึงช่วงค่ำ แต่ปรากฏว่าเช้านี้หมอกควันถูกพัดพาเข้ามาสะสมตัวในอากาศเหนือตัวเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง และเหมือนว่าจะสาหัสมากกว่าช่วงสูงสุดตั้งแต่ต้นสัปดาห์มาด้วย
สภาพอากาศเหนือตัวเมืองเชียงใหม่วันนี้มีหมอกควันสะสมตัวหนาแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมาพร้อมกันกลิ่นควัน และกลิ่นไหม้ที่รุนแรงกว่าทุกวัน หลายคนรู้สึกได้ทันทีที่ออกจากตัวอาคารกับอาการแสบตา และแสบจมูก แม้จะสวมหน้ากากอนามัยที่กันฝุ่นแล้วก็ตาม และช่วงเช้าจากหมอกควันที่สะสมตัวหนาแน่นทำให้แสงแดดไม่สามารถส่องลอดลงมาถึงพื้นได้ ทำให้สภาพหมอกควันที่ปกคลุมหนาแน่นกลายเป็นสีขุ่นเหลืองจนน่ากลัว
และเช้านี้ก็พบว่าเว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองใหญ่ที่มีมลพิษทั่วโลก รายงานว่าจังหวัดเชียงใหม่ กลับมาขึ้นแท่นอันดับ 1 เป็นหัวเมืองที่มีค่ามลพิษทางอากาศสูงที่สุดในโลก ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้สูงถึง 224 US AQI ถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายอย่างมากกับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่
ส่วนข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษเช้านี้พบว่าที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 8.00 น. ที่ศูนย์ราชการตำบลช้างเผือกวัดได้ 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 201 AQI ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 210 AQI ที่ ดอยสุเทพ 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 154 AQI ที่ ต.หางดง อ.ฮอด 160 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 270 AQI ขณะที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ซึ่งเกิดไฟป่ามากสุดของเชียงใหม่ ค่า PM2.5 พุ่งสูงขึ้นมาต่อเนื่องวัดได้ 265 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 375 AQI
ขณะที่ภาพถ่ายจากดาวเทียมของนาซ่า ยังพบว่าจุดฮอทสปอททั้ในพื้นที่ภาคเหนือ และประเทศพม่า และลาว ยังสาหัสแดงเป็นผืนเต็มพื้นที่
แม้จะมีรายงานพยากรณ์อากาศจากทางกรุมอุตุนิยมวิทยาว่าจะมีพายุฤดูร้อน แต่สำหรับภาคเหนือที่จะได้รับผลกระทบก็จะเป็นเพียงจังหวัดทางตอนล่างของภาคเหนือ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พิจิตร และพิษณุโลก เท่านั้น แต่ทางตอนบนไม่ได้รับอิทธิพลของพายุที่จะมาช่วยบรรเทาสถานการณ์หอกควันลงได้เลย