หลังจากฝนตกเมื่อ 2 วันก่อนเช้านี้ตัวเมืองเชียงใหม่อุณหภูมิลดฮวบอีกรอบ 2-3 องศา ต่ำสุดเช้านี้อยู่ที่ 17-19 องศา เหมือนกลับเข้ามาสู่ช่วงฤดูหนาว ยามเช้าชาวบ้านต้องหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่กันอีกรอบ ขณะที่อุตุฯเหนือย้ำ อากาศเปลี่ยนแปลงรักษาสุขภาพตอนเช้ามีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง กลางวันร้อน ส่วนปริมาณฝนเริ่มลดลงเสี่ยงที่ปัญหาหมอกควัน และมลพิษในอากาศจะกลัมาได้อีกยังต้องคุมเข้มเรื่องของการเผา
หลังจากช่วง 2 วันที่ผ่านมาหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ได้รับอิทธิพลของพายุฤดูร้อน และพายุลูกเห็บ รวมทั้งฝนที่ตกกระจายทั่วพื้นที่ เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีนที่แผ่เสริมเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทั้งนี้นอกจากส่งผลดีให้ปัญหาวิกฤติหมอกควันจะบรรเทาลงมาได้ระดับหนึ่ง แต่พบว่าอุณหภูมิของเชียงใหม่ลดลงอย่างฮวบฮาบเฉลี่ยวันละ 2-3 องศา อย่างที่ตัวเมืองเชียงใหม่เช้านี้ พบว่าอุณหภูมิลดลงจากเมื่อวานนี้ 2-3 องศา ต่ำสุดในเขตตัวเมืองเชียงใหม่อยู่ที่ 17-19 องศาเซลเซียส ส่วนตามเทือกเขา และยอดดอยก็ยังมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดได้บางพื้นที่
ทำให้เช้านี้พบว่าชาวบ้านที่ออกมาทำกิจกรรมยามเช้าอย่างที่ตลาดชุมชนท่าเดื่อ ต.วันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บรรดาพ่อค้าแม่ค้า โดยเฉพาะผู้สูงอายุต้องหเครื่องนุ่มห่มกันหนาวมาสวมใส่สร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย หลังจากที่ซักเก็บไว้มานานหายสัปดาห์แล้ว แต่เช้านี้ปรากฏว่าอากาศหลับมาหนาวเย็นอีกรอบจึงต้องนำออกมาสวมใส่กันอีกครั้งแม้จะถือว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูร้อนแล้วก็ตาม
ทางด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือรายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ภาคเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบอยู่ที่ 18-20 องศา กับมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ประมาณร้อยละ 10 ของพื้นที่ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้อุณหภูมิของภาคเหนือจะเริ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 1-2 องศาเซลเซียส โดยเฉพาในช่วงวันที่ 16-19 มีนาคมนี้อุณหภูมิจะสูงขึ้นไปอยู่ที่ 33-38 องศา ให้เตรียมตัวรับมือากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ส่วนปริมาณฝนก็จะลดลงอากาศที่ร้อน แห้งแล้งจะเข้ามาแทนที่ ย้ำเตือนประชาชนในพื้นที่ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงนี้ให้ระวังรักษสุขภาพ
ส่วนเรื่องปัญหาหมอกควันที่ผ่านมาพายุฝน และลมทำให้หลายพื้นที่ค่ามลพิษในอากาศบรรเทาลงแล้ว แต่ยังถือว่าอยู่ในช่วงที่ยังมีความเสี่ยงเนื่องจากฝนที่ลดลงอากาศที่ร้อขึ้นก็จะส่งผลให้หมอกควันกลับมาสะสมตัวในอากาศขึ้นได้อีกหากยังมีการเผาเกิดขึ้นในพื้นที่ของประเทศไทยเอง หรอจากประเทศเพื่อนบ้าน ยังต้องคุมเข้มเรื่องของงดการเผาในที่โล่งทุกชนิดอยู่ต่อเนื่อง
