สำนักพรัพยากรณ์ป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ดอยม่อนแจ่มจรวจสอบ 45 รีสอร์ทดัง จัดระเบียบรุกป่า ใช้ที่ดินผิดประเภทหรือซื้อขายเปลี่ยนมือ ขณะที่ชาวบ้านหวิดลุกฮือล้อมเข้าใจผิดนึกว่ามาจับแกนนำชาวบ้านวอนขอให้เจรจาแม้จะพบว่าทำผิดก็ขอให้ร่วมกันแก้ปัญหาไม่อยากให้ใช้วิธีเดียวกับดอยอย่างขางที่สั่งปิดรื้อและห้ามเข้าใช้พื้นที่
สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เดินหน้าจัดระเบียบดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังพบว่ากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการสร้างรีสอร์ท ที่พัก ผุดขึ้นหลายร้อยแห่ง ส่วนหนึ่งพบว่ามีปัญหาเรื่องของการบุกรุกพื้นที่ป่า การใช้ที่ดินผิดประเภท รวมทั้งปัญหาเรื่องของการซื้อขายเปลี่ยนมือ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถทได้เนื่องจากเป็นพื้นที่จัดสรร ให้เป็นพื้นที่ทำกิน
เบื้องต้นมีการสำรวจในหลายครั้งแล้ว พบว่ามีรีสอร์ททั้งสิ้น 45 แห่ง ที่ตั้งชื่อเป็นม่อนต่างๆ เปิดบริการเป็นที่พักโฮมสเตย์ หรือธุรกิจประเภทโรงแรมขนาดต่างๆ ซึ่งการมาลงพื้นที่ครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยสื่อมวลชน ก็ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจเนื่องจากเข้าใจผิดจากมีการปล่อยข่าวว่าเจ้าหน้าที่จะมาจับกุม และกลัวว่าจะมีการแก้ปัญหาเช่นเดียวกันกับที่ดอยอ่างขาง ซึ่งมีการสั่งปิดทันที ดำเนินการจับกุมและยึดคืนพื้นที่ จึงหวั่นว่าจะได้รับผลกระทบดังกล่าวได้มารวมตัวกันจำนวนมากเพื่อรองฟังและดูท่าที
โดยทาง นายภูมินทร์ บุญบันดาล หัวหน้า สำนักพรัพยากรณ์ป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ ซึ่งได้ร่วมเจรจากับตัวแทนชาวบ้าน ซึ่งมีนายสุรินทร์ นทีไพรวัลย์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหอยเก่า เป็นตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมประชุม ด้วย ซึ่งทางป่าไม้้ได้ชี้แจงว่า สืบเนื่องมาจากการที่ โครงการหลวงรับพื้นที่จากกรมป่าไม้มา 11,000 ไร่ ทาง ป่าไม้เข้ามาสำรวจโครงการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ ในเขตป่าสงวนและป่าไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ปี 2554 จำนวน 900 กว่าแปลงกินพื้นที่กว่า 3 พันไร่ให้กับ 6 ร้อยครอบครัวเพื่อเป็นที่ดินทำกิน แต่ไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ และใช้ผิดวัตถุประสงค์ ตามมติ ครม.ดังกล่าว แต่ปัจจุบันพบว่าเกิดปัญหาขึ้นหลายอย่าง จึงต้องเข้ามาตรวจสอบ และที่สำคัญการมาลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้มาจับกุมหรือดำเนินคดีใดๆ แต่มาเพื่อสำรวจ ตรวจสอบ และเก็บข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องของการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ตามมติครม.และตามคำสั่ง คสช.ต่างๆ ที่จะต้องมีการพลักดันออกจากพื้นที่ และดำเนินการตามกฏหมาย อย่างไรก็ตามในส่วนของการดำเนินการใดๆเจ้าหน้าที่จะต้องมาชี้แจงให้ชาวบ้าน และโครงการหลวงในพื้นที่ได้ทราบก่อนดำเนินการทุกครั้ง เพื่อร่วมกันตัดสินใจให้ถูกต้องตามกฏหมายเท่านั้น
ทางด้าน นายสุรินทร์ นทีไพรวัลย์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหอยเก่า ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่าชาวบ้านยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่อยากให้ร่วมกันแก้ปัญหาไม่อยากให้เข้ามาดำเนินการจับกุมหรือรื้อถอนหรือยึดพื้นที่คืนจากชาวบ้าน แม้ว่าบางแปลงอาจจะมีการการเปลี่ยนมือกันในพื้นที่ก็ตาม ทั้งนี้บอกว่าม่อนแจ่มถูกตรวจสอบหลายต่อหลายครั้ง จึงอยากจะฝากว่าในการตรวจสอบครั้งนี้ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมชาวบ้าน หลังการตรวจสอบครั้งนี้ไม่ว่าจะพบปัญหาใๆ ทั้งเรื่องลุกล้ำพื้นที่เล็กๆน้อยๆ หรือเปลี่ยนมือในพื้นที่ อยากให้ร่วมกันเจรจา และหาทางออก ซึ่งชาวบ้านยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกันมวลชนที่มาร่วมสังเกตุการณ์ นั้นไม่อยากให้มีปัญหากระทบกระทั่งกันเนื่องจากชาวบ้านเป็นกังวลว่าจะได้รับผลกระทบกับอาชีพ ไม่อยากให้ใช้โมเดลของดอยอ่างขางมาเป็นแบบอย่างเนื่องจากตอนนี้พบว่าที่ดอยอ่างขางการท่องเที่ยวซบเซาลงไปอย่างมากหลังจากที่มีการจัดระเบียบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ทำให้ชาวบ้านที่นี่หวั่นว่าจะเกิดผลกระทบเช่นเดียวกันกับที่ดอยอ่างขาง มวลชนที่มาในวันนี้ไม่อยากให้ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันดอยอ่างขางเนื่องจากส่วนใหญ่มีอาชีพเสริมรายได้กับการท่องเที่ยวที่จำหน่ายสินค้าของที่ระลึกและสินค้าการเกษตรให้กับนักท่องเที่ยว