
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้งเตือนพื้นที่ภาคเหนือเฝ้าระวังผลกระทบจากปริมาณฝตกหนักต่อเนื่องในช่วง 1-2 วันนี้ ขณะที่ทางหลวงแจ้งเตือนเส้นทางอนตรายที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เสน้ทางภาคเหนือตอนบน
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้ออกประกาศแจ้งเตือนเรื่องสภาพพายุฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องด้วยในช่วงวันที่ 4 – 5 ส.ค. 62 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบนเข้าสู่พายุดีเปรสชั่น “วิภา” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ส่วนในช่วงวันที่6 – 10 ส.ค. 62 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่ง พายุดีเปรสชั่น “วิภา” ปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 4 – 5 ส.ค. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โโยเฉพาะพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร และสุโขทัย
อย่างไรก็ตามจากสภาพฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ ทางหลวงได้ฝากย้ำเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางภาคเหนือให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ เนื่องจากเส้นทางที่มีความคดเคี้ยว และลาดชัน บางช่วงเกิดน้ำา และดินไสลด์ รวมทั้งเส้นทางบางช่วงที่ยังคงมีการสร้างทางแก้ไขปรับปรุงสภาพ ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
สำหรับเส้นทางอันตรายที่ลาดชันได้แก้เส้นทางหลวงหลายเลข 11 สายเอเชีย ช่วงของดอยขุนตาล รอยต่อของจังหวัดลำปาง และลำพูน/ เส้นทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่-แม่สะเรียง/ เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง /ทางหลวงชนบทหมายเลข 1095 เชียงใหม่-ปาย ซึ่งมีความคดเคี้ยวและลาดชันต้องเพิ่มควาระมัดระวังในการขับขี่ ขณะที่ทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่ – เชียงราย ซึ่งอยู่ในช่วงของการก่อสร้าง เส้นทางส่วนใหญ่ถูกเปิดผิวจราจร และดินฝนตกทำให้เกิดดินโคลนในบางช่วงมีน้ำป่าไหลหลาก จึงทำให้การจราจรชะลอตัวเกือบตลอดเส้นทาง จึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง และตรวจสอบสภาพเส้นทางก่อนเดินทาง โดยเช้านี้มีรายงานว่าการจราจรในเส้นทางดังกล่าวยังเดินทางได้แต่ต้องเพิ่มความระมัด หลังจากที่วานนี้ต้องปิดถนนบางช่วงเพื่อเปิดทางระบายน้ำป่าที่ไหลลงมาจากลำห้วยในบางช่วง