หนุ่มเจ้าของร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าเชียงใหม่ร้องความเป็นธรรรมโดนปลอมลายเซ็นเช็คสูญเงินกว่า2.4ล้านบาท ตามคนร้ายจนเจอและยอมรับผิดจ่ายคืนแค่2ล้านบาท ต้องการเรียกร้องความรับผิดชอบส่วนที่เหลือจากธนาคาร เหตุ จนท.ควรมีความรอบคอบตรวจสอบและระบบรัดกุมป้องกันลูกค้าเสียหาย
วันนี้(12 มิ.ย.62) นายวีรวัฒน์ เลิศเกษมกุล อายุ42ปี นักธุรกิจเจ้าของบริษัทขายอุปกรณ์ไฟฟ้าแห่งหนึ่งในอำเภอสันทรายจังหวัดเชียงใหม่ นำเอกสารหลักฐานร้องขอความเป็นธรรมและเรียกร้องความรับผิดชอบจากธนาคารพาณิชย์ชื่อดังแห่ง กรณีที่ได้รับความเสียหายจากการที่ถูกคนร้าย เป็นอดีตพนักงานบัญชี ปลอมแปลงลายมือชื่อในเช็ค ทั้งเช็คบริษัทและเช็คส่วนตัวรวมทั้งสิ้น จำนวน 47 ใบนำไปขึ้นเงินกับธนาคารเป็นจำนวนเงินกว่า 2.4 ล้านบาท สั่งจ่ายเข้าบัญชีของคนร้าย ซึ่งต่อมาตรวจสอบพบการกระทำความผิดจนสามารถติดตามคนร้ายได้ โดยคนร้ายยินยอมชดใช้เงินให้ แต่มีเงินเพียงจำนวน 2 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องการให้ธนาคารรับผิดชอบในส่วนที่เหลือ
ทั้งนี้นายวีรวัฒน์ เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อในช่วงปี2560-2561ต่อมาได้ตรวจสอบพบ แจ้งความดำเนินคดีและติดตามจับกุมตัวคนที่ก่อเหตุได้ ซึ่งคนร้ายยอมรับผิดและชดใช้เงินให้ 2 ล้านบาท อย่างไรก็ตามส่วนที่เหลือไม่มีให้ ขณะที่เมื่อทวงถามความรับผิดชอบจากธนาคารว่าจะให้การช่วยเหลืออย่างไรได้บ้างกลับถูกปฏิเสธตลอดตั้งแต่เดือน พ.ย.61นานกว่า6เดือนแล้ว ทำให้ตัวเองได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะเงินจำนวนดังกล่าวต้องใช้ในการหมุนเวียนดำเนินธุรกิจ
โดยจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้มองว่าความบกพร่องส่วนหนึ่งและเป็นส่วนสำคัญมาจากการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของธนาคารด้วยที่ไม่มีความรอบคอบในการตรวจสอบลายมือชื่ออย่างละเอียดว่าถูกต้องหรือไม่ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นลูกค้าที่ติดต่อทำธุรกรรมร่วมกับธนาคารมาตลอด จึงน่าจะสังเกตเห็นความผิดปกติได้โดยง่าย เพราะเป็นเช็คที่ปกติสั่งจ่ายให้กับบริษัทคู่ค้า แต่กลับสั่งจ่ายเข้าบัญชีส่วนตัวหรือลายมือชื่อในเช็คที่ผิดเพี้ยนอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้เกิดเหตุขึ้นและทำให้ตัวเองได้รับความเสียหาย ดังนั้นจึงอยากร้องขอความเป็นธรรรมและทวงถามเรียกร้องความรับผิดชอบ รวมทั้งธรรมาภิบาลจากทางธนาคารด้วย